9 หุ้น ราคาไม่เกิน 5 บาท ปัจจัยพื้นฐานแน่น
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
เมื่อเอ่ยถึงหุ้นที่มีราคาต่ำ เช่น 1 บาทต่อหุ้น 3 บาทต่อหุ้น 5 บาทต่อหุ้น นักลงทุนเข้าใจว่าเป็นหุ้นที่เหมาะกับการเก็งกำไรระยะสั้นๆ เท่านั้น ราคาหุ้นเคลื่อนไหวค่อนข้างรวดเร็วและบางครั้งก็ขึ้นลงไม่เป็นไปตามภาวะตลาด แต่ในความจริงถ้าสามารถคัดกรองหุ้นราคาต่ำด้วยปัจจัยพื้นฐาน อาจทำให้การลงทุนหุ้นประเภทนี้ได้ผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอ
โดยทั่วไป หุ้นที่มีราคาต่ำหรือเรียกว่า Penny Stock เป็นหุ้นของบริษัทที่มีขนาดเล็ก หรือบางกรณีอาจเป็นบริษัทใหญ่ แต่ประสบภาวะขาดทุนสะสมจำนวนมาก ทำให้ราคาหุ้นตกต่ำเป็นเวลานาน นอกจากนี้ ยังเป็นที่ที่มีสภาพคล่องไม่มาก ทำให้นักลงทุนอาจซื้อหุ้นได้ยากและเมื่อซื้อได้แล้วถ้าต้องการขายก็ทำได้ยากเช่นกัน ที่สำคัญมักถูกมองว่าเป็นหุ้นเพื่อการเก็งกำไร หมายความว่า ถ้าลงทุนได้กำไรก็จะกำไรดี และก็มีโอกาสขาดทุนสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งหมดเช่นเดียวกัน
ที่ผ่านมาหุ้นที่มีราคาต่ำมักเป็นที่สนใจของนักลงทุนรายย่อย เนื่องจากมีทุนจดทะเบียนหรือปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนต่ำและราคาต่ำ การเข้าลงทุนจึงใช้เงินทุนไม่มาก แต่ก็มีบางจังหวะที่อาจมีนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาลงทุนด้วยวิธีทยอยเข้าเก็บหุ้นเงียบๆ จนได้หุ้นจำนวนมากพอและปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนในตลาดน้อยลงและเข้าซื้อต่อเนื่องเพื่อไล่ราคาให้สูงขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อนักลงทุนคนอื่นเห็นความเคลื่อนไหวก็เข้ามาซื้อตามเพื่อคาดหวังว่าราคาจะปรับขึ้น หลังจากนั้นนักลงทุนรายใหญ่จะค่อยๆ ทยอยขายออกโดยเก็บเกี่ยวกำไรจนเป็นที่พอใจ ถ้านักลงทุนคนอื่นขายออกไม่ทันจะติดหุ้น หรือรู้จักกันดีว่า ติดดอย หรือบางคนก็ตัดใจขายขาดทุน จึงเป็นที่รับรู้กันดีว่าหุ้นประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง
ถ้าสนใจลงทุนหุ้นที่มีราคาต่ำและลดความเสี่ยง คือ การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ที่สามารถยอมรับความสูญเสียได้ เช่น ซื้อหุ้นที่ราคา 10 บาท ตั้ง % ตัดขาดทุนไว้ที่ 5% คำนวณจุดหยุดขาดทุนได้ 10 x 5% = 0.50 บาท หมายความว่า ยอมรับการขาดทุนได้ที่ 0.5 บาท ดังนั้น ถ้าราคาหุ้นที่ถือลดลงจาก 10 บาท เป็น 9.50 (10 – 0.50) บาท ต้องตัดสินใจขาย
โดยสรุปแล้ว เนื่องจากเป็นหุ้นกลุ่มที่มีสภาพคล่องไม่มาก หุ้นประเภทนี้มีแนวโน้มที่จะผันผวนด้านราคาสูง หมายความว่า นักลงทุนมีโอกาสสูงที่จะมีโอกาสได้กำไรสูงและขาดทุนสูง อย่างไรก็ตาม การเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นของบริษัทขนาดเล็กก็สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ หมายความว่า ถ้าเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ก็จะสามารถขยายกิจการและกลายเป็นหุ้นขนาดกลางและใหญ่ เป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับ มีฐานะทางการเงินที่มั่นคงในอนาคต
ดังนั้น ถ้าค้นหาหุ้นที่มีราคาต่ำที่มีศักยภาพหรือแนวโน้มการเติบโตที่ดี ก็สามารถลงทุนระยะยาวโดยคาดหวังว่าบริษัทจะประสบความสำเร็จในอนาคต ทำให้มูลค่าและราคาหุ้นสูงขึ้น แต่นักลงทุนต้องติดตามศึกษาข้อมูลของบริษัทและธุรกิจให้ลึกซึ้ง จนสามารถแยกแยะข้อเท็จจริงกับข่าวลือข่าวลวงต่างๆ จึงจะประสบความสำเร็จในการลงทุนกับหุ้นประเภทนี้