1O กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ผลตอบแทนเด่น
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
หากนักลงทุนยังประเมินว่าเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่สำคัญเชื่อว่าตลาดหุ้นจะปรับลดลง ทางเลือกที่น่าสนใจท่ามกลางความไม่แน่นอน คือ เน้นการลงทุนแบบระมัดระวัง หนึ่งในนั้น คือ การลงทุนกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น
จากภาวะตลาดการลงทุนที่ผันผวน ทำให้ตราสารหนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เพราะนักลงทุนจะประเมินล่วงหน้าก่อนตัดสินใจลงทุน เช่น หากคาดว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ราคาตราสารหนี้มักจะปรับสูงขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นโดยรวมจะปรับลดลง
โดยที่ผ่านมานักลงทุนเทขายหุ้นก่อนที่จะเกิดสถานการณ์เลวร้าย เช่น วิกฤตซับไพรม์ หรือช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ราคาตราสารหนี้จึงปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นผันผวนและปรับลดลง
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ ประเมินว่าในกรณีที่เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2567 และธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ต้องกลับมาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเร็วและแรงกว่าที่คาดเอาไว้ อาจทำให้ผลตอบแทนรวมจากการลงทุนในพันธบัตรเพิ่มสูงขึ้น จึงมองว่าการลงทุนพันธบัตร สามารถคาดหวังผลตอบแทนได้สูงกว่าตลาดหุ้น และช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้ดีในกรณีที่เศรษฐกิจชะลอตัว
ข้อมูลจาก KGI Wealth Management บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะนำว่าการบริหารความเสี่ยงภายใต้สภาวะการลงทุนที่ท้าทาย จำเป็นต้องมีสินทรัพย์ลงทุนที่มีความปลอดภัยในพอร์ตลงทุน หนึ่งในนั้นคือ กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น และมีความเสี่ยงระดับ Investment Grade เนื่องจากที่ผ่านมาตราสารหนี้ระยะสั้น สร้างผลตอบแทนในระดับที่ดี โดยล่าสุด (17 พฤศจิกายน 2566) พันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 3 เดือน, 6 เดือน และ 1 ปี อยู่ที่ระดับ 2.13%, 2.30% และ 2.39% ต่อปี
ถึงแม้ว่าการลงทุนไม่สามารถการันตีผลตอบแทนได้ แต่พันธบัตรรัฐบาลมักเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมในภาวะที่ตลาดหุ้นผันผวนหรือเศรษฐกิจถดถอย เพราะข้อดีของพันธบัตรรัฐบาล คือ มีความเสี่ยงต่ำ เงินต้นไม่หาย และได้รับผลตอบแทนที่ดี
อย่างไรก็ตาม หากนักลงทุนไม่สามารถซื้อพันธบัตรโดยตรงได้ ก็สามารถลงทุนผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ได้ โดยข้อดี คือ ใช้เงินลงทุนน้อย, มีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ จึงเหมาะกับการลงทุนเพื่อเป็นเงินสำรองและบริหารสภาพคล่อง, มีความเสี่ยงต่ำ โอกาสขาดทุนเงินต้นน้อย ที่สำคัญผลตอบแทนใกล้เคียงกับการฝากประจำ
