สรุปภาพรวมผลตอบแทน กองทุนรวมหุ้นโลก ปี 66
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line
เมื่อย้อนกลับไปดูภาพการลงทุนปี 2566 มีทั้ง “รอยยิ้ม” และ “น้ำตา” เนื่องจากมีปัจจัยและสถานการณ์หลากหลายเข้ามาจนส่งผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบต่อการลงทุน โดยเฉพาะนโยบายการเงินที่ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการลงทุน
ข้อมูลจาก บลจ.บัวหลวง อธิบายว่าตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ ในช่วงปี 2564–2565 โดยในช่วงเดือนธันวาคมปี 2564 ตลาดคาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2565 จะอยู่ที่ 0.75% กลับกลายเป็นว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมีนาคม–ธันวาคมปี 2565 ทั้งสิ้น 7 ครั้ง ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายยืนอยู่ที่ 4.5%
เหตุการณ์นี้มีความคล้ายกับปี 2566 ที่ตลาดมองว่าสหรัฐอเมริกาจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้เฟดจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง แต่กลายเป็นว่ายังขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกระทั่งอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบัน ขยับมาที่ 5.5% เป็นการขยับขึ้นต่ออีก 4 ครั้งในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้เกิดการแบ่งขั้วกันมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศอย่างชัดเจน เช่น สหรัฐอเมริกาห้ามการลงทุนในเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ของจีน และจีนก็ตอบโต้สหรัฐอเมริกาผ่านมาตรการต่างๆ เช่น การจำกัดการส่งออกแร่สำคัญที่ใช้ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ หรือสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน, อิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและควบคุมไม่ได้ ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกันกับกองทุนรวมหุ้นที่มีนโยบายลงทุนหุ้นทั่วโลก โดยปี 2566 ก็ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นต่อความแข็งแกร่งเศรษฐกิจ ตรงกันข้ามกับเศรษฐกิจจีนที่ปีที่แล้วที่มีความเปราะบางจากปัญหาต่างๆ รุมเร้า รวมถึงความขัดแย้งกับสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนผันผวน ซึ่งกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนหุ้นจีนได้รับผลกระทบตามไปด้วย
มาดูกันว่าภาพรวมผลตอบแทนกองทุนรวมหุ้นโลกปี 2566 เป็นอย่างไรกันบ้าง…