“จีน” เด็กจบใหม่ 12 ล้านคน…มีงานทำทันทีไม่ถึงครึ่ง!
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line
จบเยอะ แต่มีงานเสนอไม่ถึงครึ่ง
– นักศึกษาจบใหม่ในประเทศจีนปีนี้มีมากเป็นประวัติการณ์ถึง 11.79 ล้านคน (ประเทศไทยมีนักศึกษาจบใหม่ปีละประมาณ 4-5 แสนคน) เพิ่มขึ้นจากปี 2023 ที่ 10.5 ล้านคน และ 10 ปีก่อน (ปี 2014) มีเด็กจบใหม่เพียงแค่ 6.5 ล้านคน (เพิ่มขึ้นมา 1 เท่าตัว) ซึ่งเด็กจบใหม่กลุ่มนี้กำลังเผชิญกับการหางานที่ยากลำบากอย่างมาก
– ข้อมูลจาก Nikkei Asia รายงานว่า มีเด็กจบใหม่ที่ได้งานทำแล้วแน่ๆ เพียงแค่ 48% จากเกือบ 12 ล้านคน (ข้อเสนองานสำหรับเด็กจบใหม่ลดลงประมาณ 2.4%YoY)
– ก่อนปี 2020 เด็กจบใหม่ในจีนได้รับการเสนองานสูงถึง 75% แต่หลังจากเกิด COVID-19 ข้อเสนองานสำหรับเด็กจบใหม่กลับลดลงต่ำกว่า 50% จากการที่รัฐบาลสั่งปิดเมืองเซี่ยงไฮ้เพื่อพยายามหยุดการแพร่กระจายของ COVID-19
– โดยบริษัทเอกชนกำลังลดการจ้างงานลงในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี อสังหาริมทรัพย์ และโรงเรียนกวดวิชา ที่ก่อนหน้านี้เป็นภาคส่วนสำคัญในการรับเด็กจบใหม่เข้าทำงาน แต่หลังจากรัฐบาลได้คุมเข้มการเติบโตของอุตสาหกรรมเหล่านี้ (คุมการกระจุกตัวของบริษัทเทคโนโลยี, คุมฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์, คุมการเรียนกวดวิชา) รายได้ของบริษัทเหล่านี้ก็ปรับตัวแย่ลง จึงต้องลดการจ้างงานในท้ายที่สุด
– SAIC Motor บริษัทร่วมทุนระหว่าง Volkswagen และ General Motors ได้ลดตำแหน่งงานลงประมาณ 9,000 ตำแหน่งระหว่างปี 2019-2023 ขณะที่ Dongfeng Motor ได้ปลดพนักงานประมาณ 2,600 คน
– เดือน มิ.ย. 2023 ทางการจีนรายงานตัวเลขอัตราการว่างงานของเด็กจบใหม่ (อายุ 16-24 ปี) สูงถึง 21.3% (กว่า 1 ใน 5) ก่อนจะยุติการรายงานตัวเลขดังกล่าวไปหลายเดือน และกลับมารายงานอีกครั้งเมื่อเดือน มี.ค. 2024 อัตราการว่างงานของเด็กจบใหม่ปรับลงมาเหลือ 15.3% แต่ตัวเลขนี้ก็ยังมากกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตถึง 3 เท่า
เด็กจบใหม่จีน หันมาสนใจงานราชการ เพื่อความมั่นคง
– การเลือกงานที่ทำของเด็กจบใหม่ก็เปลี่ยนไปจากเดิมเช่นกัน 13% ต้องการทำงานในภาคเอกชน (ลดลงจาก 25% ในปี 2020) 48% ต้องการทำงานในภาครัฐ เพื่อความมั่นคงในการทำงาน โดยมีผู้เข้าสอบเข้าบรรจุราชการสูงถึง 1:77 (1 ตำแหน่งว่าง:ผู้สมัคร 77 คน)
นายจ้างจีน หาเด็กต่างชาติมากขึ้น
– อีกข้อมูลที่น่าสนใจคือภาคเอกชนจีน กำลังต้องการ “International Students” มาทำงานมากขึ้น โดย Higher Education Statistics Agency ของสหราชอาณาจักร รายงานว่า จีนกลายเป็นประเทศที่รวมกลุ่มนักศึกษาต่างชาติไว้มากที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่อง
– ปี 2018 – 2023 mShare InternShare รายงานว่าจีนให้ความสำคัญกับนักศึกษาต่างชาติเพิ่มขึ้นถึง 280% ในหลากหลายตำแหน่งไม่ว่าจะเป็น Product Design, International Media Operations หรือ Multinational Legal Affairs
– ข้อมูลจาก iiMedia Research สะท้อนให้เห็นว่าปี 2023 บริษัททุกขนาดต่างใช้กลยุทธ์ขยายตลาดไปยังต่างประเทศมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ (ขนาดใหญ่ 29.5%, ขนาดกลาง 39.4%, ขนาดเล็ก 28.9%)
– หนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจคือ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ที่เริ่มนำบริการ e-Commerce มาใช้ในเดือน ก.ย. 2023 และพบว่ามีมูลค่าธุรกรรม มาถึงกว่า $10 ล้าน ต่อวัน เช่นเดียวกับหลายแบรนด์จีนที่ใช้กลยุทธ์นี้ ทั้ง Temu, SHEIN, AliExpress, Xiaomi, OPPO ที่ขยายตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง หรือแม้แต่ Honey Snow City (แบรนด์ชาจีน) ที่มีสาขากว่า 4,000 แห่งนอกจีนแผ่นดินใหญ่ (ข้อมูล ณ เดือน ต.ค. 2023) (ยังคนละชั้นกับ Starbucks ที่มีสาขานอกสหรัฐฯ กว่า 35,000 สาขา)
– รัฐบาลจีนได้ทำการผ่อนคลายวีซ่า พร้อมสิทธิประโยชน์ด้านภาษี ให้นักศึกษาต่างชาติ เพื่อสนับสนุนการดึงคนเก่งๆ จากทุกมุมโลกมาพัฒนาเศรษฐกิจจีนในอนาคต
– ปี 2022 มีนักศึกษาต่างชาติส่งใบสมัครงานในประเทศจีนมากถึง 34.8 ล้านใบสมัคร เพิ่มขึ้น 90% เมื่อเทียบกับปี 2020 ที่ 18.2 ล้านใบสมัคร
ที่มาข้อมูล: