เช็กสินทรัพย์ลงทุน ครึ่งปีแรก อะไรรุ่ง-อะไรร่วง

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line

ใครคือผู้ชนะ?

(1) ตลาดหุ้นไต้หวัน (TAIEX) ทำผลตอบแทน H1/2024 ได้ดีที่สุด 28.45%

– ที่น่าสนใจคือ TAIEX มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 55 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน แต่เฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ก็คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 90% (49 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน) โดยไต้หวันคือผู้ครองส่วนแบ่งตลาดชิปชั้นสูงอันดับ 1 ของโลก (เกือบ 70%)

– เดอะแบกที่แท้จริงของ TAIEX คือ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company Limited) โดยบริษัทเดียวมีมูลค่าตลาดคิดเป็นเกือบ 50% (25 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน) ของตลาดหุ้นไต้หวัน

(2) ตลาดหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ (NASDAQ) ทำผลตอบแทน H1/2024 ได้ 19.9%

โดยมีหุ้น 2 ตัวที่นำตลาดพุ่งแรงคือ

1. NVIDIA ครึ่งปี +150%

ในฐานะผู้นำตลาด GPU และ AI Processors ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่สำคัญทั่วโลก (ไม่มี GPU ของ NVIDIA ก็ไม่มี AI)

2. ARM ครึ่งปี +122%

ในฐานะผู้นำ Smartphone และ Mobile Processors ผู้พัฒนาและได้รับใบอนุญาตด้าน CPU จากลูกค้าชั้นนำ ทั้ง Apple, Amazon, Nvidia ถือเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาด 99% ของ Smartphone และกว่า 60% ในอุปกรณ์เคลื่อนที่

แต่ปัจจุบัน P/E ของหุ้นทั้ง 2 อยู่ที่ NVIDIA 72.29 เท่า, ARM 591.04 เท่า

(3) ตลาดหุ้นญี่ปุ่น (NIKKEI) ทำผลตอบแทน H1/2024 ได้ 17.6%

– ถือเป็นปีทองของหุ้นญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นปีที่ทำ All Time High ต่อเนื่อง (ก.พ. สูงสุดรอบ 34 ปี | มี.ค. แตะ 40,000 จุดได้สำเร็จ)

– ปัจจัยหนุนหุ้นญี่ปุ่น 3 ปัจจัยคือ

1) เศรษฐกิจญี่ปุ่น ฟื้นตัวจากภาวะเงินฝืด

2) ค่าเงินเยนที่อ่อนค่า

3) คาดการณ์การเติบโตของกำไรบริษัทเอกชนญี่ปุ่น ในปีนี้

– BlackRock เชื่อว่าหุ้นญี่ปุ่นยังมีโอกาสที่จะเดินหน้าเป็นขาขึ้นต่อได้จากการหลุดพ้นภาวะเงินฝืด และยุตินโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ พร้อมการเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอนาคตอันใกล้