×

Wealth Me Up ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ

Webull โบรกเกอร์ชั้นนำจากสหรัฐฯ พร้อมบุกตลาดไทย

386

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย

Youtube | Facebook | TikTokInstagramLine 

 

Webull โบรกเกอร์ชั้นนำสัญชาติสหรัฐฯ รายแรก ที่ได้รับอนุญาตการให้บริการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในไทย ด้วยยอดดาวน์โหลดมากกว่า 40 ล้านครั้ง พร้อมเข้าสู่สนามการลงทุนแล้ว และเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยได้สัมผัสประสบการณ์เทรด ‘หุ้นสหรัฐฯ มากกว่า 15,000 บริษัทชั้นนำ’ รวมถึงกองทุน ETF สัญญาออปชัน และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อีกมากมาย นักลงทุนจะได้สัมผัสประสบการณ์เทรดแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมโปรโมชัน ‘ค่าคอมมิชชัน 0%’ สำหรับนักลงทุนรายย่อยชาวไทยทุกคน

 

แพลตฟอร์มการลงทุนของ Webull Thailand เปิดให้ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ทั้ง AppStore และ PlayStore โดยศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.webull.co.th 

 

AppStore : https://apple.co/3XuRifR   

 

PlayStore : https://bit.ly/3Xzcm4S  

 

ทำไมต้อง Webull ?

 

คุณชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. วีบูลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ‘Webull Thailand’ ได้เล็งเห็นว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากร 66 ล้านคน และนักลงทุนไทยมี 2.6 ล้านคน จึงมองเห็นโอกาสเติบโตของตลาดทุนไทย และเมื่อถามว่าทำไมต้องเป็นหุ้นสหรัฐฯ คุณชลเดชมองว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในอนาคตจะเป็นอย่างไร ตลาดหุ้นซึ่งมีมาร์เก็ตแคปเกือบครึ่งหนึ่งของโลก ยังจะเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่และความสำคัญก็ยังคงเหมือนเดิม

 

ทั้งนี้จุดเด่นของ Webull ที่จะมาตอบโจทย์นักลงทุนไทยมีดังนี้

 

1. Professional Multi-device Tools | มีเครื่องมือที่ดี

 

  • Real-time Quote ดูราคาหุ้นได้เรียลไทม์และดู Bids–Offers ได้ถึง 50 ช่อง
  • 7 Order Types ตั้งคำสั่งซื้อ-ขายได้หลากหลายประเภท
  • Fundamental Data มีข้อมูลพื้นฐานครอบคลุม
  • Technical Analysis วิเคราะห์สัญญาณทางเทคนิค
  • Quant Score วัดคะแนนในแต่ละด้านของหุ้นผ่านการวิเคราะห์เชิงปริมาณ
  • Screener ช่วยคัดกรองหุ้นได้ตามที่นักลงทุนต้องการ

 

2. Competitive Pricing Scheme | มีราคาที่เหมาะสม


ไม่เก็บค่าคอมมิชชันขั้นต่ำ มีโปรโมชันสม่ำเสมอสำหรับนักลงทุน

 

3. Investment Education | มีการให้ความรู้การลงทุน


พร้อมทั้งสอนวิธีการใช้เครื่องมือการลงทุน

 

แล้วอะไรคือเหตุผลที่ควรลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ?

 

คุณ Tim Edwards, Ph.D. หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนในดัชนี S&P Dow Jones Indices ยังได้แลกเปลี่ยนมุมมองและวิเคราะห์โอกาสของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีขนาดประมาณ 53 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสัดส่วนประมาณ 10% ที่อยู่ในดัชนี S&P 500 ซึ่งดัชนี S&P 500 ถือเป็นดัชนีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และการลงทุนในดัชนีก็มีข้อได้เปรียบที่สำคัญ คือมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าหลายครั้งเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในกองทุนที่บริหารโดยผู้จัดการที่เลือกหุ้น

 

โดยในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา กองทุนที่จัดการโดยการบริหารแบบเชิงรุกได้ให้ผลดำเนินงานดังนี้

 

  • 60% ไม่สามารถอยู่รอดได้ 
  • 30% อยู่รอดได้แต่ผลตอบแทนต่ำกว่าดัชนี S&P 500
  • 10% อยู่รอดได้ และผลตอบแทนดีกว่าดัชนี S&P 500

 

นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา มีการลงทุนในกองทุนดัชนีที่เพิ่มขึ้น

 

ส่วนเรื่องความเสี่ยงที่หลายคนอาจจะกังวลอย่างการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยทั่วไปแล้วตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการที่พรรคไหนจะชนะการเลือกตั้ง โดยข้อมูลตั้งแต่ปี 1928–2020 แสดงให้เห็นว่าผลตอบแทนเฉลี่ยของดัชนี S&P 500 ในช่วงเวลาที่มีการเลือกตั้งกับช่วงที่ไม่มีการเลือกตั้งไม่ได้แตกต่างกันมากนัก

 

  • ผลตอบแทนเฉลี่ยสำหรับไตรมาส 4 ของปีที่มีการเลือกตั้งคือ 2.3% ต่อปี
  • ผลตอบแทนเฉลี่ยสำหรับไตรมาส 4 ของปีอื่นๆ คือ 2.9% ต่อปี
  • ผลตอบแทนเฉลี่ยสำหรับไตรมาสอื่นๆ คือ 2.0% ต่อปี

 

Cboe ตลาดสัญญาออปชันที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

 

คุณ Sharon Ang, CFA หัวหน้าฝ่ายขายตราสารอนุพันธ์ระดับโลก ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จาก Cboe ซึ่งเป็นตลาดสัญญาออปชันที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับสัญญาออปชัน ว่าปัจจุบันตลาดออปชันในสหรัฐฯ มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทุกปีถือเป็นปีที่ทำสถิติใหม่

 

ตลาดออปชันในสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมกว่า 2.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแบ่งประเภทเป็น Single Stock, ETF Options และ Index Options ในส่วนของปริมาณการซื้อขายเกือบๆ 50 ล้านสัญญาต่อวัน ซึ่งถือเป็นปริมาณซื้อขายที่มีขนาดใหญ่มาก

 

ปัจจุบันนี้ทาง Webull ก็ได้มีบริการ Index Options และภายในสิ้นปีนี้จะมีการให้บริการ Single Stock Options 

 

ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่จะได้เปิดประสบการณ์ซื้อขาย Single Stock Options ที่มีการซื้อขายในตลาด

 

นอกจากนี้ยังมีการแนะนำสัญญาออปชันที่หมดอายุในวันเดียว (0DTE) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่กำลังได้รับความสนใจในสหรัฐฯ เป็นการซื้อขายสัญญาออปชันที่มีวันหมดอายุระยะสั้นมาก จะมีการหมดอายุในทุกวัน ซึ่งจะช่วยให้สามารถซื้อขายสัญญาออปชันได้แม่นยำ และป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ

 

อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของงานสัมมนา คือโปรโมชันพิเศษสำหรับผู้เปิดบัญชีกับทาง Webull รับโปรโมชันค่าคอมมิชชัน 0% ในช่วง 90 วันแรกทันทีหลังการเปิดบัญชีสำเร็จ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2567 เวลา 17:00 น. ถึง 31 ตุลาคม 2567 เวลา 16:59:59 น. (ตามเวลาประเทศไทย) 

 

นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่ได้ทำการซื้อขายผ่าน Webull อยู่แล้วจะได้เข้าร่วมแคมเปญค่าคอมมิชชัน 0% เช่นกัน ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2024*

 

แพลตฟอร์มการลงทุนของ Webull Thailand เปิดให้ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ทั้ง AppStore และ PlayStore โดยศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.webull.co.th

AppStore:https://apple.co/3XuRifR

PlayStore:https://bit.ly/3Xzcm4S

 

*แคมเปญค่าคอมมิชชั่น 0% สำหรับผู้ใช้เดิม:

 1. ผู้มีสิทธิ์: ผู้ใช้ทุกคนที่มียอดเงินฝากแล้วก่อนวันที่ 16 กันยายน เวลา 17:00 (ไม่ต้องดำเนินการใดๆ)

 2. รางวัล: ช่วงเวลาปลอดค่าคอมมิชชันตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน เวลา 17:00 ถึง 15 ธันวาคม เวลา 16:59:59

 

**แคมเปญค่าคอมมิชชั่น 0% สำหรับผู้ใช้ใหม่:

 1. ผู้มีสิทธิ์: ผู้ใช้ทุกคนที่เปิดบัญชีสำเร็จหลังวันที่ 16 กันยายน เวลา 17:00 น.

 2. รางวัล: ช่วงเวลาปลอดค่าคอมมิชชัน 90 วัน นับจากวันที่เปิดบัญชีสำเร็จ

 

***รายละเอียดแคมเปญฝากเงิน:

 1. ระยะเวลาแคมเปญ: 16 กันยายน เวลา 17:00:00 ถึง 31 ตุลาคม เวลา 16:59:59

 2. เงื่อนไข:

(1) ทำการฝากเงินสุทธิสะสมจำนวน 20,000 บาท ภายในระยะเวลาแคมเปญ และรักษายอดเงินฝากนี้เป็นเวลา 30 วัน นับจากวันที่มียอดเงินฝากสุทธิครบ 20,000 บาท

(2) ทำการซื้อขาย 5 รายการ ภายในระยะเวลาแคมเปญ

 3. รางวัล: หุ้นฟรีมูลค่า 1,000 บาท (สุ่มจาก NVDA, MSFT, BRKB, GOOG, AAPL, TSLA)

 

คำเตือน : การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats