×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

เทียบ 3 กองทุนลดหย่อนภาษี ‘เงื่อนไข-สิทธิประโยชน์’

114

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย

Youtube | Facebook | TikTokInstagramLine 

 

เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลชอปกองทุนลดหย่อนภาษี มาเช็กกันหน่อยดีกว่ากองทุนลดหย่อนภาษี ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3 แบบด้วยกัน ได้แก่ SSF  RMF และ ThaiESG จะมีเงื่อนไขและให้สิทธิประโยชน์กับผู้ลงทุนอย่างไรบ้าง?

 

กองทุน SSF

 

  • ลงทุนได้ไม่เกิน 30% ของเงินพึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี สูงสุดปีละ 200,000 บาท
  • ไม่มีขั้นต่ำในการลงทุนแต่ละครั้ง และไม่ต้องลงทุนต่อเนื่องก็ได้
  • หน่วยลงทุนที่ลงทุนแต่ละครั้ง ต้องถืออย่างน้อย 10 ปีเต็ม (วันชนวัน)
  • อาจมีนโยบายจ่ายเงินปันผล ขึ้นกับแต่ละกองทุน
  • เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงจากลงทุนได้บ้าง อายุน้อยกว่า 45 ปี

 

กองทุน RMF 

 

  • ลงทุนได้ไม่เกิน 30% ของเงินพึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี สูงสุดปีละ 500,000 บาท
  • ไม่มีขั้นต่ำในการลงทุนแต่ละครั้ง แต่ต้องลงทุนต่อเนื่องอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งทุกปี ถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และต้องไม่น้อยกว่า 5 ปีเต็มด้วย
  • ทุกกองทุน ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล
  • เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงจากลงทุนได้บ้าง อายุมากกว่า 45 ปี หรือต้องการเก็บเงินเพื่อยามเกษียณ

 

กองทุน ThaiESG 

 

  • ใช้สิทธิได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 300,000 บาท (ไม่นับรวมในสิทธิ 5 แสนบาท ของกองทุน SSF/RMF ประกันบำนาญ ฯลฯ)
  • ไม่มีขั้นต่ำ ไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี 
  • หน่วยลงทุนที่ลงทุนในแต่ละครั้ง ต้องถือไว้อย่างน้อย 5 ปีเต็ม (วันชนวัน)​ โดยใช้สิทธิได้ตั้งแต่ปี 2566-2575 
  • เหมาะกับผู้ที่มีรายได้สูง หากมีการใช้สิทธิกองทุน SSF RMF ประกันชีวิต ประกันบำนาญ ด้วยแล้ว ภาษีที่ประหยัดได้จะยิ่งมากขึ้นอีกด้วย

 

สำหรับกองทุน ThaiESG นอกจากจะมีการปรับเกณฑ์ใหม่ในการลงทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีมากขึ้นแล้ว ด้านนโยบายการลงทุนของ ThaiESG เงื่อนไขใหม่ เน้นลงทุนในหุ้นไทย และ/หรือ ตราสารหนี้ไทย ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับความยั่งยืน โดยมีการปรับปรุงเกณฑ์การลงทุนระยะยาวจากปีก่อนหน้าเพื่อตอบโจทย์ความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) ของคนไทยและสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนยกระดับด้านธรรมาภิบาล (Governance) ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งครอบคลุมประเด็นต่างๆ ดังนี้

 

    • รวมทั้งขยายการคัดเลือกหุ้นให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยหุ้นต้องผ่านการคัดกรองจาก SET หรือผู้ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล
    • เพิ่มทางเลือกให้ ThaiESG สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีการยกระดับด้านธรรมาภิบาลในระดับดีเลิศ (ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการ (CG) จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ตั้งแต่ 90 คะแนนขึ้นไป) มีการเปิดเผยเป้าหมาย แผนงาน ความคืบหน้าของการปฏิบัติตามเป้าหมายและมีประสิทธิภาพในการสื่อสารกับผู้ลงทุน เป็นต้น

 

สำหรับใครที่สนใจลงทุนในกองทุนรวม ThaiESG สามารถเช็กรายละเอียดกองทุนที่มีการเสนอขายตามลิงก์นี้ได้เลย https://www.settrade.com/th/mutualfund/screening?specificationCode=TESG

 

การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี ทำให้ผู้ลงทุนได้ประโยชน์ถึง 2 ต่อ นอกจากช่วยประหยัดภาษีซึ่งขึ้นอยู่กับฐานภาษีของแต่ละคนแล้ว ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากกองทุนที่เลือกลงทุนอีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้เงินออมของเราที่นำไปลงทุนงอกเงยมากขึ้น แต่ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดต่างๆ และความเสี่ยงของกองทุนให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน  

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats