เทียบ 3 กองทุนลดหย่อนภาษี ‘เงื่อนไข-สิทธิประโยชน์’
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line
เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลชอปกองทุนลดหย่อนภาษี มาเช็กกันหน่อยดีกว่ากองทุนลดหย่อนภาษี ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3 แบบด้วยกัน ได้แก่ SSF RMF และ ThaiESG จะมีเงื่อนไขและให้สิทธิประโยชน์กับผู้ลงทุนอย่างไรบ้าง?
กองทุน SSF
- ลงทุนได้ไม่เกิน 30% ของเงินพึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี สูงสุดปีละ 200,000 บาท
- ไม่มีขั้นต่ำในการลงทุนแต่ละครั้ง และไม่ต้องลงทุนต่อเนื่องก็ได้
- หน่วยลงทุนที่ลงทุนแต่ละครั้ง ต้องถืออย่างน้อย 10 ปีเต็ม (วันชนวัน)
- อาจมีนโยบายจ่ายเงินปันผล ขึ้นกับแต่ละกองทุน
- เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงจากลงทุนได้บ้าง อายุน้อยกว่า 45 ปี
กองทุน RMF
- ลงทุนได้ไม่เกิน 30% ของเงินพึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี สูงสุดปีละ 500,000 บาท
- ไม่มีขั้นต่ำในการลงทุนแต่ละครั้ง แต่ต้องลงทุนต่อเนื่องอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งทุกปี ถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และต้องไม่น้อยกว่า 5 ปีเต็มด้วย
- ทุกกองทุน ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล
- เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงจากลงทุนได้บ้าง อายุมากกว่า 45 ปี หรือต้องการเก็บเงินเพื่อยามเกษียณ
กองทุน ThaiESG
- ใช้สิทธิได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 300,000 บาท (ไม่นับรวมในสิทธิ 5 แสนบาท ของกองทุน SSF/RMF ประกันบำนาญ ฯลฯ)
- ไม่มีขั้นต่ำ ไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
- หน่วยลงทุนที่ลงทุนในแต่ละครั้ง ต้องถือไว้อย่างน้อย 5 ปีเต็ม (วันชนวัน) โดยใช้สิทธิได้ตั้งแต่ปี 2566-2575
- เหมาะกับผู้ที่มีรายได้สูง หากมีการใช้สิทธิกองทุน SSF RMF ประกันชีวิต ประกันบำนาญ ด้วยแล้ว ภาษีที่ประหยัดได้จะยิ่งมากขึ้นอีกด้วย
สำหรับกองทุน ThaiESG นอกจากจะมีการปรับเกณฑ์ใหม่ในการลงทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีมากขึ้นแล้ว ด้านนโยบายการลงทุนของ ThaiESG เงื่อนไขใหม่ เน้นลงทุนในหุ้นไทย และ/หรือ ตราสารหนี้ไทย ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับความยั่งยืน โดยมีการปรับปรุงเกณฑ์การลงทุนระยะยาวจากปีก่อนหน้าเพื่อตอบโจทย์ความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) ของคนไทยและสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนยกระดับด้านธรรมาภิบาล (Governance) ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งครอบคลุมประเด็นต่างๆ ดังนี้
-
- รวมทั้งขยายการคัดเลือกหุ้นให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยหุ้นต้องผ่านการคัดกรองจาก SET หรือผู้ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล
- เพิ่มทางเลือกให้ ThaiESG สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีการยกระดับด้านธรรมาภิบาลในระดับดีเลิศ (ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการ (CG) จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ตั้งแต่ 90 คะแนนขึ้นไป) มีการเปิดเผยเป้าหมาย แผนงาน ความคืบหน้าของการปฏิบัติตามเป้าหมายและมีประสิทธิภาพในการสื่อสารกับผู้ลงทุน เป็นต้น
สำหรับใครที่สนใจลงทุนในกองทุนรวม ThaiESG สามารถเช็กรายละเอียดกองทุนที่มีการเสนอขายตามลิงก์นี้ได้เลย https://www.settrade.com/th/mutualfund/screening?specificationCode=TESG
การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี ทำให้ผู้ลงทุนได้ประโยชน์ถึง 2 ต่อ นอกจากช่วยประหยัดภาษีซึ่งขึ้นอยู่กับฐานภาษีของแต่ละคนแล้ว ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากกองทุนที่เลือกลงทุนอีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้เงินออมของเราที่นำไปลงทุนงอกเงยมากขึ้น แต่ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดต่างๆ และความเสี่ยงของกองทุนให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน