×

Wealth Me Up ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ

เก็บเงินต้องเริ่มทันที! ก่อนที่ ‘ความอยาก’ จะหายไป

98

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย

Youtube | Facebook | TikTokInstagramLine 

 

เมื่อไหร่จะเริ่มเก็บเงิน? คำถามที่หลายคนมักผัดวันประกันพรุ่ง  

 

“รอเงินเดือนขึ้นก่อน” “รอมีเงินเหลือค่อยเก็บ” อาจเป็นความคิดที่เราคุ้นเคย แต่ความจริงคือ การรอคอยเช่นนี้อาจทำให้เราไม่ได้เริ่มต้นเก็บเงินสักที

 

คุณราชันย์ ตันติจินดา นักวางแผนการเงิน CFP®  ได้ให้เคล็ดลับในการเริ่มเก็บเงินไว้ในรายการลงทุนนิยม เกษียณสุข The Series ได้อย่างน่าสนใจ และน่าจะป็นเคล็ดลับที่ช่วยให้การเริ่มต้นเก็บเงินของใครหลายๆ คนง่ายขึ้น 

 

1. ต้องเริ่มทันที ไม่ต้องรอ 

 

“ก่อนที่ความอยากเก็บเงินจะหายไป” เพราะหลายคนมักผัดวันประกันพรุ่ง รอให้มีเงินเดือนมากกว่านี้ หรือรอให้มีเงินเหลือก่อน ซึ่งการรอแบบนี้อาจทำให้ไม่ได้เริ่มเก็บเงินสักที

 

2. เริ่มจากจำนวนที่ทำได้จริง 

 

ถ้าเริ่มเก็บเงินสูงๆ ไม่ได้ ก็ค่อยๆ เริ่มเก็บ บางคนเริ่มได้วันละ 10 บาท ก็เริ่มวันละ 10 บาท บางคนเริ่มได้เดือนละ 1,000 บาท ก็เริ่มเก็บเงินเดือนละ 1,000 บาท สิ่งสำคัญ คือ “การเริ่มต้นและทำอย่างสม่ำเสมอ”

 

3. เลือกวิธีเก็บที่ถอนออกได้ยาก 

 

“เก็บในทางเลือกที่ล็อกเงินเอาไว้” เพราะเงินที่เก็บเอาไว้ไปอยู่ในทางเลือกที่ออกได้ง่าย บางเดือนอยากใช้จ่ายก็จะมีการถอนออกมาใช้จ่าย โดยทางเลือกที่แนะนำ เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้แบบกำหนดระยะเวลา ที่ล็อกการถอน 3-6 เดือน หรือเงินฝากประจำปลอดภาษีที่ต้องฝากต่อเนื่อง 24 เดือน ซึ่งนอกจากจะช่วยบังคับวินัยการออมแล้ว ยังได้ผลตอบแทนพิเศษด้วย

 

4. ขยับจากเก็บออมเป็นลงทุน

 

เมื่อมีเงินสำรองพอประมาณแล้ว (3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน) ให้เริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวมหุ้น เพื่อให้เงินมีโอกาสเติบโตมากขึ้น เพราะการลงทุนในหุ้นระยะยาวมักให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินทั่วไป 

 

เคล็ดลับลงทุนให้กลายเป็นเงินก้อนโต

 

การทำให้เงินเก็บก้อนเล็กเติบโตเป็นเงินก้อนใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องเกินความสามารถ คุณราชันย์ อธิบายหลักการสำคัญที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายนี้

 

1. การสร้างวินัยในการลงทุน

 

เปรียบเสมือนการสร้างบ้าน ที่ต้องมีฐานรากที่แข็งแรง คุณราชันย์อธิบายว่า “การเก็บเงินอย่างมีวินัยเป็นการสะสมฐานเงินให้เยอะขึ้น พอฐานเงินเยอะขึ้นจะทำให้มีฐานทรัพยากร ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะจะทำให้ต่อยอดหรือทำให้เงินงอกเงยในอนาคต ถ้าทรัพยากรหรือเงินต่ำ ก็มีโอกาสในการต่อยอดน้อยลงตามไปด้วย”

 

2. ลงทุนในทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสมกับตัวเอง

 

ยิ่งลงทุนเป็นระยะเวลานานจะได้รับผลตอบแทนที่ดี “ถึงแม้ระหว่างทางจะมีความเสี่ยงบ้าง เงินลงทุนมีความผันผวนบ้าง แต่ผ่านไป 10 ปี 20 ปี ความผันผวนหรือการขาดทุนจะหายไป ถ้าเชื่ออย่างนี้แล้วเมื่อผ่านไป 10 ปี 20 ปี ผลตอบแทนที่จะได้รับ จะเห็นผลเลยว่าสูงกว่าเงินฝากโดยทั่วไป”

 

คุณราชันย์ยังแนะนำเคล็ดลับสำคัญในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จ นั่นคือ การใช้ระบบหักเงินอัตโนมัติผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร เพราะจะช่วยสร้างวินัยในการลงทุนได้ดีกว่าการฝากด้วยตัวเอง และที่สำคัญคือ ให้ลืมเงินนั้นไป เสมือนเงินนั้นหายจากบัญชีแล้ว “แล้วค่อยกลับมาดูผลลัพธ์ในอีก 2–3 ปี สำรวจดูว่าเงินที่เคยลงทุนไปนั้นได้เติบโตขึ้นมากน้อยแค่ไหน”

 

ถ้าย้อนเวลาได้ ฉันจะเก็บเงินให้ได้เยอะๆแน่นอนว่าคงไม่มีใครย้อนเวลากลับไปได้ ดังนั้นถ้าเราไม่อยากให้อดีตเรื่องการเงินของเรามาเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตในอนาคต สิ่งที่ต้องทำตั้งแต่วันนี้คือเริ่มเลยทันที”  มีน้อยออมน้อย 10 บาทก็ต้องออม เมื่อมีรายได้เยอะขึ้นเราก็แบ่งมาออมเยอะขึ้น แต่สิ่งสำคัญอย่าลืมว่าเก็บอย่างเดียวไม่พอต้องขยับไปลงทุนด้วย เพื่อให้เงินของเรางอกเงยได้เร็วขึ้น  

 

#WealthMeUp

 

Related Stories

amazon anti fatigue mats