ปั้นพอร์ตเกษียณสุขด้วย ‘ทองคำ’
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line
ในยุคที่ตลาดการเงิน ตลาดทุน มีความผันผวนสูง การวางแผนเกษียณจำเป็นต้องมีความรอบคอบ หลายคนมองหาสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าได้ในระยะยาวและป้องกันความเสี่ยง ซึ่ง “ทองคำ” ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ
คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ให้มุมมองใน “ลงทุนนิยม เกษียณสุข The Series” ว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวน่าประทับใจ และยังช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทองคำถูกมองว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” (Safe Haven) ที่นักลงทุนมักเข้าถือครองในช่วงที่ตลาดผันผวน โดยเฉพาะช่วงวิกฤติเศรษฐกิจหรือเมื่อค่าเงินผันผวน เพราะทองคำสามารถรักษามูลค่าได้ดีกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น
ทำไมควรมี ‘ทองคำ’ ในพอร์ตการลงทุน?
- รักษามูลค่าในระยะยาว
ทองคำมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการรักษามูลค่า แม้จะมีความผันผวนในระยะสั้น แต่ในระยะยาว ทองคำมักจะรักษามูลค่าได้ดี โดยเฉพาะในช่วงที่เงินเฟ้อสูง
- การกระจายความเสี่ยง
ทองคำมักมีความสัมพันธ์เชิงลบกับสินทรัพย์อื่นๆ เช่น หุ้น พันธบัตร ซึ่งหมายความว่าเมื่อตลาดหุ้นหรือพันธบัตรปรับลดลง ราคาทองคำอาจจะปรับตัวขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมในพอร์ตการลงทุน
- ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
ในช่วงที่เงินเฟ้อสูง ทองคำมักจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ช่วยรักษากำลังซื้อของเงินสดที่อาจลดลงจากเงินเฟ้อ
- ไม่มีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ต่างจากการลงทุนในหุ้นกู้หรือพันธบัตร
- มีสภาพคล่องสูง
สามารถซื้อขายได้ง่ายในทุกตลาดทั่วโลก ทำให้มีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตการลงทุนเมื่อจำเป็น
- สัดส่วนทองคำที่เหมาะสมในพอร์ตเกษียณ
ข้อมูลจากสภาทองคำโลก (World Gold Council) แนะนำว่าควรมีทองคำประมาณ 10% ของพอร์ตลงทุน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเศรษฐกิจไม่แน่นอนหรือเงินเฟ้อสูง อาจเพิ่มสัดส่วนเป็น 15%
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการกำหนดสัดส่วนทองคำ ได้แก่
- ความทนต่อความเสี่ยง
- วัตถุประสงค์การลงทุน
- ระยะเวลาการลงทุน
- ความต้องการรายได้
- สถานการณ์ทางการเงินโดยรวม
คุณฐิภากล่าวว่า ” ส่วนตัวมองว่า 10% เป็นระดับที่เหมาะสม เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แม้จะไม่หวือหวา แต่ช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี”
สำหรับผู้ที่เกษียณแล้ว การถือทองคำในพอร์ตระดับ 10% ยังคงมีประโยชน์ เพราะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตโดยรวม “หากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ราคาทองคำมักปรับตัวขึ้น ซึ่งช่วยลดความเสียหายของพอร์ตการลงทุน” คุณฐิภาอธิบาย
บทสรุป…การจัดสรรสินทรัพย์ควรปรับให้เหมาะกับเป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล การทบทวนและปรับสมดุลพอร์ตเป็นประจำ รวมถึงการถือทองคำในสัดส่วนที่เหมาะสม จะช่วยให้การวางแผนเกษียณเป็นไปอย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ
