×

Wealth Me Up ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ

ทำตามนี้ “หนี้หมดไว” ก่อนวัยเกษียณ

278

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย

Youtube | Facebook | TikTokInstagramLine 

 

ลองจินตนาการดูว่า หลังเกษียณอายุจากการทำงานประจำ คุณตื่นขึ้นมาทุกเช้าโดยไม่มีเสียงนาฬิกาปลุก ไม่ต้องรีบอาบน้ำ ไม่ต้องรีบแต่งตัวไปทำงานให้ทันเวลา แต่หนี้ยังคงอยู่ คุณยังต้องจ่ายค่าผ่อนบ้าน ผ่อนบัตรเครดิต หรือหนี้นอกระบบในแต่ละเดือน ภาพชีวิตวัยเกษียณที่เคยฝันไว้ อาจกลายเป็นฝันค้างถ้าหนี้ไม่หมดก่อนเวลานั้นมาถึง

 

“ลงทุนนิยม เกษียณสุข The Series” สัมภาษณ์ ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ถึงวิธีการไม่ให้หนี้กลายเป็นภาระยามบั้นปลายชีวิต และชวนทุกคนโดยเฉพาะคนที่อยู่ในช่วงก่อนเกษียณ มาทำความเข้าใจและลงมือจัดการหนี้อย่างจริงจัง

 

หนี้ก้อนไหนต้องรีบเคลียร์

 

เมื่อมองในโลกแห่งความเป็นจริง หลายคนไม่ได้มีหนี้แค่ก้อนเดียว แต่มีทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้บ้าน หนี้นอกระบบ จนบางครั้งชีวิตก็เริ่มวุ่นวายไม่รู้จะเริ่มต้นเคลียร์อะไรก่อนดี ดร.อัจฉรา แนะนำว่า “หนี้ทุกประเภทควรเคลียร์ให้หมดก่อนเกษียณ แต่ถ้ามีหนี้หลายประเภท ชีวิตก็จะวุ่นวายสับสนไปหมด ก็ต้องพยายามจัดลำดับการเคลียร์หนี้ให้ชัดเจน”

 

1. หนี้ดอกเบี้ยสูง 

 

จัดการก่อนเป็นอันดับแรก เริ่มจากหนี้ที่กินดอกเบี้ยสูง เช่น หนี้นอกระบบ หนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด เพราะยิ่งปล่อยไว้นาน ดอกเบี้ยจะยิ่งทวีคูณ ทำให้เคลียร์หนี้ได้ช้าลงเรื่อยๆ และเป็นภาระต่อเนื่องยาวนาน

 

2. หนี้บ้าน 

 

หนี้ที่ก้อนใหญ่ แต่ไม่ควรปล่อยยาว แม้หนี้บ้านจะดูไม่เร่งด่วน เพราะดอกเบี้ยไม่สูง แต่ก็เป็นหนี้ที่มีผลกระทบระยะยาว เพราะ “ผ่อนน้อย ผ่อนนาน ดอกเบี้ยจะท่วมเงินต้น” เช่น ถ้ามีหนี้บ้าน 5 ล้านบาท แล้วผ่อนยาวๆ แบบไม่รีบ เคยมีคนต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 7 ล้านบาท และถ้าเหลือเวลาอีกแค่ 3-5 ปีก่อนเกษียณ ก็มีโอกาสที่จะต้องแบกหนี้ต่อไปหลังจากไม่มีรายได้ประจำ

 

วิธีจัดการหนี้บ้านแบบมือโปร

 

  • รีไฟแนนซ์เพื่อลดดอกเบี้ย
  • เพิ่มเงินต้นในการผ่อนชำระแต่ละเดือน

 

ดร.อัจฉรา ให้คำแนะนำเรื่อง “หนี้ที่ดี” ว่าการเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ควรเป็นหนี้อย่างมีสติ 

  • หนี้รวมทั้งหมด ไม่ควรเกิน 50% ของมูลค่าสินทรัพย์
  • ค่าผ่อนหนี้ ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน

 

ถ้ารักษาสัดส่วนเหล่านี้ได้จะสามารถบริหารหนี้ได้อย่างสมดุล และไม่กลายเป็นภาระยาวถึงวัยเกษียณแน่นอน “ถ้าทำได้ก็จะจัดการหนี้ได้ และไม่เป็นภาระที่มากเกินไป ที่สำคัญก็ไม่เป็นหนี้เรื้อรังไปจนถึงวัยเกษียณ” ดร.อัจฉรา บอก

 

เริ่มต้นจัดการหนี้อย่างไรให้ได้ผล

 

1. สแกนกรรม การเงินของตัวเอง 

เริ่มจากการสำรวจทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดให้ชัดเจน แยกออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ

  • สินทรัพย์ อะไรคือของที่มี เช่น เงินสด เงินฝาก บ้าน รถ ที่ดิน ฯลฯ
  • หนี้สิน หนี้ทุกประเภทที่ยังผ่อนอยู่ ทั้งในระบบและนอกระบบ
  • รายรับ รายได้ประจำ รายได้เสริม หรือเงินอื่นๆ ที่เข้ามา
  • รายจ่าย ค่าใช้จ่ายประจำ ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หรือรายจ่ายไม่คาดคิด

 

2. ทำตารางสะสางหนี้ 

 

คือ การลงมือจัดระบบหนี้อย่างเป็นรูปธรรม โดยการจดรายละเอียดหนี้แต่ละก้อนอย่างละเอียดที่สุด เช่น

  1. เป็นหนี้ใครบ้าง
  2. เป็นหนี้เท่าไหร่
  3. ดอกเบี้ยแต่ละก้อนอยู่ที่กี่เปอร์เซ็นต์
  4. ผ่อนชำระต่อเดือนเท่าไหร่

 

จากนั้นให้นำข้อมูลเหล่านี้มาจัดลำดับความสำคัญของการชำระหนี้ ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี

 

แบบที่ 1 เรียงจากหนี้ดอกเบี้ยสูงก่อน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดเงินในระยะยาว เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้นอกระบบ ดอกเบี้ยสูงมากควรเร่งจัดการก่อน

 

แบบที่ 2 เรียงจากหนี้ก้อนเล็กก่อน (Snowball Effect) วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการแรงจูงใจ เห็นผลเร็ว เมื่อสามารถปิดหนี้ก้อนเล็กได้เร็ว จะมีกำลังใจสู้ต่อกับหนี้ก้อนอื่นๆ แบบเป็นขั้นตอนต่อเนื่อง

 

เกษียณแล้วยังมีหนี้ ทำอย่างไรดี?

 

หนี้ไม่เลือกวัย และบางครั้งแม้จะเกษียณไปแล้ว ชีวิตก็ยังหนีไม่พ้นภาระที่ตามมา เช่น ค่าผ่อนบ้าน บัตรเครดิต หรือหนี้สินที่ตกค้าง ดร.อัจฉรา แนะนำว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ ตั้งคำถามกับตัวเองให้ชัดว่า “จะเป็นหนี้ไปถึงอายุเท่าไร”

 

คำถามนี้ฟังดูง่าย แต่ทรงพลัง เพราะช่วย “ปลุกความตระหนัก” และ “จุดประกายพลังใจ” ให้เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างจริงจัง จากนั้นให้เริ่มต้นด้วยการสำรวจภาพรวมทางการเงินของตัวเอง

 

  • มีทรัพย์สินอะไรบ้าง
  • หนี้สินมีกี่ก้อน
  • รายรับจากแหล่งไหน
  • รายจ่ายจำเป็นเท่าไร

 

เมื่อตีภาพชัดเจนแล้ว ขั้นต่อไป คือ จัดการทรัพย์สินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ เช่น ของสะสมที่ไม่ได้ใช้ เครื่องประดับ หรือของฟุ่มเฟือยที่สามารถเปลี่ยนเป็น “สภาพคล่อง” เพื่อเอามาชำระหนี้บางส่วนได้ และหากสุขภาพยังดี ก็อาจมองหางานเสริมหรือรายได้เพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันหลายองค์กรเปิดโอกาสให้ผู้สูงวัยร่วมงาน ทั้งแบบพาร์ทไทม์หรือจ้างตามโปรเจกต์

 

อีกทั้ง หากหนี้ที่มีอยู่เป็นหนี้กับสถาบันการเงิน สามารถขอ “ปรับโครงสร้างหนี้” ได้ เช่น การขอลดอัตราดอกเบี้ย หรือขยายระยะเวลาชำระ ตามมาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ขอความร่วมมือกับสถาบันการเงินเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้

 

หัวใจของการปลดหนี้ที่แท้จริง ไม่ใช่การมีเงิน แต่คือการเปลี่ยนวิธีคิดและมีวินัยทางการเงิน เพราะการเคลียร์หนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียว ต้องใช้เวลา ความสม่ำเสมอ และความมุ่งมั่น เริ่มต้นจากการประเมินตัวเอง สร้างแผน และลงมือทำอย่างต่อเนื่อง แล้วจะพบว่าหนี้ที่เคยดูเหมือนเป็นภูเขาลูกใหญ่ จะค่อยๆ เล็กลง จนหายไปในที่สุด

 

การจัดการการเงินอาจดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าตั้งใจจริง ใครทำ คนนั้นจะประสบความสำเร็จ หรือใครเริ่มก่อน คนนั้นย่อมถึงเส้นชัยก่อนเสมอ 

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats