×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

5 บทเรียนจาก Anfield สู่โลกการลงทุน

2,487

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

ในเกมส์ฟุตบอล ถ้านัดแรกทีมคุณแพ้มา 3-0  

กองหน้าตัวเก่งเจ็บ ทีมคู่แข่งเป็นทีมต่างดาว นำทัพโดยทานอส

จะเป็นไปได้มั้ยที่จะกลับมาชนะ 4-3 ?

 

ฟังดูแล้วเหมือนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่มันเกิดขึ้นได้จริงที่ Anfield

 

ในเกมส์การลงทุน ถ้าคุณขาดทุนมา 3 ปี

เงินทุนเริ่มร่อยหรอ คู่แข่งทั้งไทยและฝรั่งต่างเก่งขึ้นกันทุกวัน ยังไม่นับทานอสที่จิ้มทวิตเตอร์ให้หุ้นร่วงได้

 

แล้วจะเป็นไปได้มั้ยที่เราจะกลับมากำไรในปีที่ 4

ฟังดูแล้วเหมือนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

แต่ผมคิดว่าเราทำได้ ถ้าเราเรียนรู้บทเรียนจาก Anfield

 

กำจัดจุดอ่อน

ลิเวอร์พูลมีปัญหาที่แนวรับมาตลอด จนได้ตัวอลิซอน และฟานไดค์ มา ทำให้แนวรับแน่นขึ้น และเสียประตูในฤดูกาลนี้น้อยมากแค่ 22 ประตู เกมส์เมื่อคืนวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา เราก็จะเห็นได้ว่าแบ็ค 2 ข้างกล้าเติมตลอด เพราะไว้ใจในผู้รักษาประตูว่าจะป้องกันเอาไว้ได้และก็เป็นไปตามนั้น

 

ในเรื่องการลงทุนก็เหมือนกัน ก่อนที่เราจะทำกำไรได้นั้น เราต้องเข้าใจให้ได้ก่อนว่าสาเหตุที่เราขาดทุนคืออะไร แล้วทำการปิดจุดอ่อนนั้นให้ได้ เช่น เรารีบซื้อขายหุ้นเกินไปเพราะกลัวตกรถ เรามองแต่การเติบโตโดยไม่ประเมินความเสี่ยงก่อนลงทุน เรามัวแต่ซื้อหุ้นที่ตามกระแสโดยไม่ดูความเหมาะสมของมูลค่า เราไม่กระจายความเสี่ยงในการจัดพอร์ต มีแต่หุ้นซิ่งตัวจี๊ด แต่ไม่มีหุ้นที่เป็นป้อมปราการมั่นคง ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ เราต้องลองสำรวจและหาทางแก้ไข

 

มีกลยุทธ์ที่หลากหลาย

นอกจากการครองบอลที่นิ่งขึ้น การส่งต่อเท้าสู่เท้าที่แม่นขึ้น เรายังพบว่าปีนี้ ลิเวอร์พูลมีแผนการเล่นที่หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะลูกนิ่งลูกตั้งเตะที่มีแท็คติกมากมาย อย่างเมื่อคืนไม่แน่ใจว่าเป็นทริคที่ซ้อมกันมาหรือว่าเป็น ไหวพริบเฉพาะตัวของเทรนท์ อาโนลด์ ที่ลักไก่เตะมุมเร็วจนกลายเป็นประตู

 

การลงทุน นอกจากพื้นฐานทั่วไปที่เราต้องมีในการเข้าใจธุรกิจ เข้าใจการประเมินมูลค่าแล้ว ในหลายๆ ครั้ง เราต้องมีแผนการเล่นที่พร้อมปรับเปลี่ยนให้ทันอยู่เสมอ เช่น เราต้องรู้ว่า ถ้างบออก พื้นฐานเปลี่ยน เราจะทำอย่างไร ถ้าเกิด panic  จาก trade war เราควรมองหาโอกาสในหุ้นกลุ่มไหน หรือแม้กระทั่งแผนการซื้อขายหุ้นของเราควรแบ่งเป็นกี่ไม้ ควรกระจายไปกี่ตัว อะไรเหล่านี้เป็นต้น ถ้าเรามีแผนที่ชัดเจนตั้งแต่ก่อนที่จะซื้อ พอเราลงสนามเราก็จะได้เปรียบคนอื่น

 

Team Spirit ไม่โทษกัน

บางครั้งเราเห็นมาเน่ฝืนยิงในจังหวะที่ควรจะส่ง ซาล่าห์อยากยิงจุดโทษแต่มิลเนอร์ไม่ให้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครโกรธเคืองกัน ไม่ว่าลูกนั้นจะพลาดหรือไม่ก็ตาม แต่กลับกลายเป็นทีมที่ให้กำลังใจกันมากกว่า เป็นการพึ่งพาทุกคนในทีม ไม่ได้มีฮีโร่แค่คนเดียว ทำให้เราเห็นการเปิดลูกสวย ๆ และการรู้ใจกันของนักเตะที่มารอโหม่ง รอชาร์จที่จุดนัดพบหลายครั้งจนกลายเป็นประตูขึ้นมา

 

ในการลงทุน เราอาจมองหุ้นในพอร์ตของเราเป็นทีมก็ได้ อาจมีบางตัวที่ทำกำไรได้มหาศาล และบางตัวที่ขาดทุนมโหฬาร เราเคยมัวแต่นั่งโทษมั้ยว่า ไม่น่าไปซื้อหุ้นตัวนั้นเลย ไม่งั้นก็รวยไปแล้ว ส่วนตัวที่กำไร เราก็เสียดายว่า รู้งี้อัดเต็มพอร์ตก็ดี แต่แทนที่เราจะโทษกันไปมา เราควรวางแผนใหม่ดีกว่า เราควรจัดสรรอย่างไร หุ้นตัวไหนดี เราก็ให้ลงเล่นเต็มเวลา หรือจ่ายค่าเหนื่อยเพิ่ม ส่วนหุ้นตัวไหนแย่เราก็เปลี่ยนตัวสำรองอย่างไวนัลดุมลงมาแทน เพราะอาจกลายเป็น Super Sub ก็ได้

 

ยืนระยะให้ได้

เกมส์ฟุตบอลไม่ได้จบกันแค่นัดเดียว แต่ 1 ฤดูกาลมี 38 นัด หรือ UCL ก็ต้องแข่งมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันเกิดจากความสม่ำเสมอและการวางแผนอย่างรอบคอบในแต่ละนัด กว่าจะฝ่าด่านมาถึงรอบชิงได้ มันย่อมไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ๆ

 

ในโลกของการลงทุนก็เช่นกัน ถ้าอยากประสบความสำเร็จ เราเตะนัดเดียวให้รวยแล้วเลิกคงเป็นไปไม่ได้ แต่มันเป็นเกมส์ที่ต้องเล่นทั้งฤดูกาล เราอาจจะแพ้บ้าง ชนะบ้าง ไม่เป็นไร แต่สุดท้ายขอให้เราได้ติดอันดับหัวตารางพอ      สิ่งสำคัญคือเราต้องเรียนรู้ว่านัดที่เราแพ้เพราะอะไร ชนะเพราะอะไร หรือแม้แต่เสมอ (ก็เสียค่าคอมนะ) เพราะอะไร เราจะได้เก็บบทเรียนมาทำใหม่จนกว่าจะได้ชูถ้วยแชมป์

 

Never Give Up

สิ่งที่ต้องยอมรับมากที่สุดคือ หัวใจของนักเตะที่ไม่ยอมแพ้ วิ่งสู้ฟัดตั้งแต่นาทีแรกจนถึงนาทีสุดท้าย และไม่เฉพาะนักเตะที่อยู่ในสนาม แต่ทั้งสต๊าฟโค้ช ทั้งนักเตะที่ไม่ได้ลง (อย่างซาล่าห์ยังใส่เสื้อ Never Give Up) หรือนักเตะเก่า ๆ รวมทั้งแฟนบอลที่มาเชียร์กันด้วย ผมเชื่อว่าหลายคนถอดใจไม่ดูถ่ายทอดสด เพราะคิดว่าไม่น่ามีปาฏิหาริย์ แต่สุดท้ายมันเกิดขึ้นจริงเพราะ นักเตะในสนามไม่เคยยอมแพ้

 

ผมเข้าใจดีว่า การขาดทุนมันเจ็บปวด เราอาจเคยรู้สึกว่า เราทุ่มเทเรียนรู้มานานหลายปี แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จซักที แต่เราไม่เคยรู้เลยว่า บางทีมันอาจจะอีกแค่นิดเดียวก็ได้นะ ที่เรากำลังจะถึงเส้นชัย

 

ในเกมส์ชีวิตจริงมันมีข้อดีกว่าเกมส์ฟุตบอลอย่างหนึ่ง คือ ไม่มีกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลา มันมีแต่เราที่จะไปหยิบนกหวีดมาเป่าแล้วยอมแพ้ออกไปเอง

 

สุดท้ายนี้อยากสรุปว่า มันไม่ใช่ปาฎิหาริย์หรอกที่ทำให้ลิเวอร์พูลกลับมาชนะ 4-0 ได้ แต่ขอเรียกมันว่า ความพยายามด้วยหัวใจของนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ต่างหาก

 

ถ้าหงส์แดงทำได้ แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้ อยู่ที่ว่าเราพยายามและอยากได้แชมป์มากพอหรือเปล่า

ที่มา: เพจ Stock Vitamins วิตามินหุ้น

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats