×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

5 สิ่งที่ควรมี ก่อนเป็นนักลงทุน!

7,380

 

เป็นเรื่องปกติไปแล้ว เมื่อตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นจะเห็นผู้คนสนใจเข้ามาลงทุน ด้วยเหตุผลเดียวคือ “อยากรวย” แต่ไม่รู้หรอกว่าเมื่อเข้ามาแล้วจะรวยตามที่วาดหวังเอาไว้หรือไม่ แต่จากอดีตมาจนถึงปัจจุบันมักจะได้ยินคำถามยอดฮิตจากนักลงทุนหน้าใหม่ที่ถามนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ นั่นคือ “ซื้อหุ้นตัวไหนดี” “หุ้นตัวไหน ซื้อแล้วกำไร” หรือ “ขอ 3 ตัว”

 

คำถามดังกล่าว นอกจากจะไม่ช่วยให้ร่ำรวยแล้วยังอาจจะทำให้เกิดความล้มเหลวอย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม การจะร่ำรวยจากตลาดหุ้นไม่ใช่เรื่องยากถ้าเริ่มต้นมาดี และนี่คือสิ่งที่ควรมีก่อนกระโดดเข้าสู่โลกตลาดหุ้น

 

1.มีเงิน | เงินออม ไม่ใช่ เงินกู้ 

ก่อนจะกระโดดเข้าสู่ตลาดหุ้น ต้องสำรวจ “กระเป๋าเงิน” ให้ดีก่อนว่าเป็นอย่างไร พูดง่ายๆ มีเงินลงทุนหรือไม่ และเงินก้อนที่จะนำมาซื้อหุ้นมาจากไหน แน่นอนก็ควรเป็นเงินเก็บออมจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ไม่ควรเป็นเงินกู้ยืม ถัดจากนั้นถามตัวเองว่าจะแบ่งสรรปันส่วนมาซื้อหุ้นเท่าไหร่

หากไม่รู้สถานะทางการเงินของตัวเอง ควรปรึกษานักวางแผนการเงินหรือเจ้าหน้าที่บริษัทหลักทรัพย์ หรืออย่างน้อยๆ อ่านข้อมูลเบื้องต้นตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการลงทุน หรือตามสื่อออนไลน์  

 

2.รู้ความเสี่ยง | รับได้หรือไม่

โปรดทราบว่าการลงทุนแต่ละอย่างมีความเสี่ยง ส่วนจะเสี่ยงมากเสี่ยงน้อยระดับไหนก็ขึ้นอยู่กับประเภทการลงทุนนั้นๆ เช่นเดียวกับหุ้นก็มีความเสี่ยงระดับหนึ่ง ดังนั้น ก่อนกระโดดเข้ามาต้องทำความรู้จักความเสี่ยงให้ลึกซึ้งประดุจญาติมิตร ยิ่งไปกว่านั้นควรทำความรู้จักก่อนคำว่ากำไร

ความเสี่ยงของหุ้นก็มีหลายระดับ เช่น หุ้นปันผล หุ้นคุณค่าจะมีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้นที่ถูกเรียกว่า หุ้นซิ่ง หรือระหว่างหุ้นปันผลกับหุ้นเติบโตก็มีความเสี่ยงแตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนลงทุนต้องทำความเข้าใจความเสี่ยงของหุ้นแต่ละประเภทและความเสี่ยงของตัวเองว่ารับได้มากน้อยแค่ไหน

การทำความรู้จักและยอมรับกับความเสี่ยงตั้งแต่เริ่มต้นอย่างลึกซึ้ง จะทำให้เวลาลงทุนจริงๆ สามารถยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่ขาดทุนและสูญเสียเงินบางส่วนไป  

 

3.แบ่งเงินฉุกเฉิน  | เพิ่มโอกาสลงทุน

เมื่อตัดสินใจแบ่งเงินเพื่อมาลงทุนในหุ้น เช่น 200,000 บาท แต่มีหลายคนที่ทุ่มเงินก้อนนี้ทั้งหมดซื้อหุ้นครั้งเดียว จากนั้นตั้งหน้าตั้งตารอผลกำไรจากการทุ่มหมดหน้าตัก คำถามคือ ถ้าหุ้นที่ซื้อเอาไว้เกิดราคาปรับลดลง แล้วขาดทุนอย่างหนัก

ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยง คือต้องกันเงินเอาไว้บางส่วน (เหมือนเป็นเงินฉุกเฉินที่ทุกคนต้องมี) เพื่อสร้างโอกาสการลงทุนในอนาคต เช่น หุ้นที่ลงทุนเป็นหุ้นปันผลหรือหุ้นคุณค่า แต่ราคาปรับลดลงตามภาวะตลาด สามารถนำเงินที่กันเอาไว้ซื้อเพิ่มได้

 

4.เป็นตัวเอง | ศึกษาจนมั่นใจ  

การลงทุนเป็นเรื่องส่วนตัว จึงไม่สามารถลอกเลียนแบบกันได้ เช่น เพื่อนเก่งใช้เครื่องมือทางเทคนิค แต่คุณเน้นลงทุนปันผลหรือหุ้นคุณค่า ดังนั้น การลงทุนไม่สามารถใช้วิธีสุ่มสี่สุ่มห้าได้ เพราะถ้าใช้จะมีโอกาสถูกหลอกลวงหรือได้ระบคำแนะนำผิดๆ ถูกๆ

 

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเป็นนักลงทุนควรเริ่มต้นด้วยการศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง เข้าฟังตามงานสัมมนา (มีให้ฟังฟรีทุกวัน) ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจในสิ่งที่คุณกำลังทำและจะรู้วิธีจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นในแบบฉบับของตัวเองได้ดีที่สุด

 

5.มีไอดอล | เรียนจากผู้รู้

วิธีหนึ่งที่ได้ผลถ้าต้องการให้การลงทุนครั้งแรกประสบความสำเร็จ นั่นคือ เรียนรู้ประสบการณ์และความผิดพลาดจากนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ เช่น วอร์เรน บัฟเฟตต์, เบนจามิน เกรเฮม, คาร์ลอส สลิม, จอร์ส โซรอส หรือคนอื่นๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งสามารถใช้ประสบการณ์จากนักลงทุนระดับโลกสร้างแนวการลงทุนให้กับตัวเอง

 

#WealthMeUp

 

กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

Related Stories

amazon anti fatigue mats