เทคนิควัดผลตอบแทนการลงทุน
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ส่วนจะเสี่ยงมาก เสี่ยงน้อยก็ขึ้นกับหลายปัจจัย ดังนั้น ก่อนลงทุนก็ต้องรู้จักวิธีหาผลตอบแทนก่อนว่าการลงทุนนั้น มีความคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งวิธีการหาผลตอบแทน มีดังนี้
ผลตอบแทนการลงทุนรวม (Total Return)
เป็นวิธีการคำนวณที่ง่ายและนิยมใช้มากที่สุด โดยรวมยอดของเงินได้ทุกประเภทที่ได้จากการลงทุน เช่น ลงทุนในกองทุนรวม หุ้นกู้ หุ้น และรวมผลตอบแทนการลงทุนที่ได้ในแต่ละงวด เช่น 1 ปี 3 ปี 5 ปี เป็นต้น
ผลตอบแทนรวม = ดอกเบี้ยรับ + เงินปันผล + กำไร (ขาดทุน) จากการซื้อขาย
ผลตอบแทนการลงทุนสุทธิ (Net Return)
ให้นำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เช่น ค่าธรรมเนียมต่างๆ ค่านายหน้าซื้อขายหุ้น มาหักออกจากผลตอบแทนจากการลงทุน
ผลตอบแทนการลงทุนสุทธิ = ผลตอบแทนรวม – ค่าใช้จ่ายการลงทุนรวม
ผลตอบแทนการลงทุนที่แท้จริง (Real Return)
นำวิธีการคำนวณผลตอบแทน 2 แบบข้างต้นมาหักออกด้วยอัตราเงินเฟ้อในแต่ละงวด เพื่อหาค่าผลตอบแทนที่แท้จริงเมื่อเทียบกับเงินเฟ้อ ซึ่งการวัดผลตอบแทนวิธีนี้จะนิยมใช้วัดผลการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ เพราะผลตอบแทนการลงทุนที่แท้จริงควรสูงกว่าเงินเฟ้อโดยเฉลี่ย
ผลตอบแทนการลงทุนที่แท้จริง = ผลตอบแทนสุทธิ – อัตราเงินเฟ้อ
ถึงตรงนี้ คงมีหลายคนถามว่า หากต้องการวัดผลตอบแทนในระยะยาวว่ายังคงน่าสนใจอยู่หรือไม่ ต้องทำยังไง คำตอบคือ ให้เปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานหรือค่าเฉลี่ยของสินทรัพย์ อุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน
การเปรียบเทียบผลตอบแทน จะทำให้รู้ว่าสินทรัพย์ที่ลงทุนอยู่นั้น สร้างผลตอบแทนดีกว่าหรือแย่กว่าเกณฑ์มาตรฐานหรือค่าเฉลี่ยของสินทรัพย์ อุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน
แต่ข้อระวังในการประเมินผลตอบแทน คือ ควรดูในระยะยาว เช่น 1 ปี 3 ปี 5 ปี เป็นต้น ไม่ควรดูผลตอบแทนในระยะสั้นมากเกินไป เช่น รายสัปดาห์ รายเดือน เพราะอาจทำให้เกิดความหวั่นไหวและตัดสินใจซื้อหรือขายผิดพลาด