“นิวซีแลนด์” ห้องเรียนแห่งการเรียนรู้
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
วันนี้จะพาไปส่องการเรียนของนักเรียนที่นิวซีแลนด์ ที่ติดอันดับ 3 ของประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษและเตรียมความพร้อมเด็กสู่อนาคต จากการจัดอันดับ Worldwide Educating for the Future Index 2018 โดย The Economist Intelligence Unit ซึ่งประเมินจากนโยบายการศึกษา บรรยากาศการเรียนการสอน และสภาพแวดล้อมด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยระบบการศึกษาของสถาบันการศึกษาของรัฐในนิวซีแลนด์ก็ดีเยี่ยมเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และเป็นประเทศแรกของโลกที่มีกฎหมายรองรับนักเรียนต่างชาติ ทำให้ปัจจุบันมีนักเรียนต่างชาติไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์จำนวนมาก เรามาดูกันว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ “นิวซีแลนด์” ยืนอยู่แถวหน้าของวงการการศึกษาโลกแบบนี้
เตรียมความพร้อมเด็กสู่อนาคต
นิวซีแลนด์วางระบบการศึกษาด้วยการให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งภาครัฐ โรงเรียน ครู ครอบครัว ภาคอุตสาหกรรม มีส่วนร่วมในการออกแบบหลักสูตรที่ทันสมัยสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก เช่น หลักสูตรด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เมื่อกำหนดหลักสูตรแล้วจะส่งไปให้ทุกภาคส่วนออกความเห็น เพื่อให้ได้หลักสูตรที่นักเรียนเรียนได้และเอาความรู้ไปใช้ได้จริงในการทำงานในอนาคต
ห้องเรียนแห่งการเรียนรู้
ห้องเรียนมีนักเรียนประมาณ 20-25 คน การเรียนการสอนจะยึดหลักให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง การแบ่งห้องเรียนไม่ได้แบ่งเป็นตามเกรดเป็นห้องเด็กเก่งหรือไม่เก่ง จัดให้เด็กนั่งเป็นกลุ่มในห้อง เพื่อให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เน้นการร่วมมือกันคิด ร่วมกันทำ ฝึกความเป็นผู้นำ ส่วนการสอบจะประเมินจากมาตรฐานการเรียนรู้และทักษะที่นักเรียนได้จากการเรียนว่าผ่านหรือไม่ผ่าน
ครูช่วยเด็กค้นหาความถนัด
เนื่องจากห้องเรียนมีขนาดเล็ก ครูจะรู้จักนักเรียนดี และจะปรับรูปแบบการเรียนตลอดเวลา ตามความต้องการและความสนใจของนักเรียน ครูจะช่วยเด็กแต่ละคนให้ค้นหาศักยภาพของตัวเอง ความถนัดและความชอบ โดยช่วงเกรด 9-10 เป็นช่วงเตรียมความพร้อมสู่ชั้นมัธยม จะมีวิชาเลือกให้เด็กเลือกเรียนตามความสนใจ เด็กๆ จะเริ่มค้นหาตัวเองในช่วงนี้ ส่วนช่วงมัธยมปลายหรือเกรด 11-12 นักเรียนสามารถเลือกวิชาเรียนตามความถนัดของตัวเอง โดยเรียนวิชาบังคับ 1-3 วิชา และเรียนวิชาเลือก จากนั้นในเกรด 13 จะเรียนแต่วิชาเลือก โดยจะมีการแนะแนวเส้นทางอาชีพชัดเจนให้เด็กรู้ว่า หากเรียนวิชานี้แล้ว จะไปเรียนต่อด้านไหน ทำอาชีพอะไรในอนาคต
เรียนรู้ด้วยการลงมือทำ
โรงเรียนนิวซีแลนด์เน้นการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริง ไม่ว่าจะในห้องเรียนหรือนอกห้องเรียน เช่น ไปทำงานในฟาร์ม หรือการเรียนวิชาคหกรรม วิชาช่างต่างๆ ครูจะไม่บอกวิธีทำ แต่จะบอกว่าต้องการผลลัพธ์คืออะไร และให้เด็กไปหาวิธีทำมาเอง เช่น ทำพาย ถ่ายรูปแฟชั่น
ใช้เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกการเรียนการสอน
นำระบบออนไลน์แบบอินเตอร์แอคทีฟสำหรับการทำการบ้านของนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถม ช่วยให้ครูให้ฟีดแบคนักเรียนได้รวดเร็ว การบ้านของเด็กนิวซีแลนด์จะเน้นการตั้งคำถามให้เด็กค้นคว้าหาความรู้ แสดงความคิดเห็นของตัวเอง นอกจากนี้ ยังมีเว็บไซต์ที่ให้เด็กๆ เข้าไปเช็กเส้นทางการเรียนของตัวเองได้ว่า เช่น หากต้องการเป็นหมอ จะต้องเรียนอะไร หรือถ้าอยากเป็นดีไซเนอร์ต้องเรียนอะไรบ้าง