×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

9 หุ้นปัจจัยพื้นฐานดี P/E Ratio ต่ำ

2,453

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

แต่การเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยแล้วจะประสบความสำเร็จทุกคนเป็นไปได้ยาก เพราะความคาดหวังผลตอบแทนจากหุ้นไทยในช่วงนี้ไม่ง่าย ด้วยปัจจัยหลากหลาย เช่น P/E Ratio ที่สูงขึ้น, สภาพคล่องที่มีโอกาสจำกัดจากความกังวลลดระดับ QE ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด)

 

และที่สำคัญการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธ์เดลต้าไม่จบลงง่าย ๆ และอาจใช้เวลานานกว่าระลอกที่ผ่าน ๆ มา หมายความว่า หากยืดเยื้อยิ่งสร้างผลกระทบต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ แน่นอนผลที่ตามมาก็จะเห็นกำไรบริษัทจดทะเบียนไม่สวยหรู

 

ดังนั้น หากยังเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ระดับสูงเช่นในปัจจุบัน อาจเห็นหุ้นมีการซื้อขาย P/E Ratio สูง และหากไต่ระดับสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ยิ่งมีความเปราะบาง ทำให้ต้องระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น

 

บทวิเคราะห์ ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่าในระยะเวลาประมาณ 1 ปี 8 เดือนที่ผ่านมา เม็ดเงินที่เข้ามาในระบบและหนุนให้ตลาดหุ้นทั้งไทยและต่างประเทศได้ปรับตัวขึ้นเกินหรือใกล้เคียงกับระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาด COVID มาก แถมยังส่งผลให้ระดับการซื้อขายบน Trailing P/E (P/E Ratio ที่ใช้ราคาปัจจุบันเทียบกับกำไรต่อหุ้นใน 12 เดือนล่าสุดที่ผ่านมา) แพงขึ้นกว่าในอดีต เช่น ตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว (MSCI World Index) ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าช่วงก่อน COVID ประมาณ 30% ขณะที่ P/E Ratio ปัจจุบันมาอยู่ที่ 24.65 เท่า (แพงขึ้น 3.5 เท่า) เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในประเทศเกิดใหม่ (MSCI Emerging Index) เพิ่มขึ้น 10% ที่ P/E Ratio ปัจจุบันอยู่ที่แถว ๆ 16.81 เท่า (แพงขึ้น 0.7 เท่า)

 

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็ปรับตัวขึ้นมาอยู่ใกล้ ๆ กับช่วงก่อนเกิด COVID โดย P/E Ratio ซื้อขาย ณ ปัจจุบันอยู่ที่ ระดับ 23.6 เท่า หรือแพงขึ้นกว่าในอดีต 5 เท่า (ย้อนหลัง 10 ปี ซื้อขายกันบน P/E Ratio เฉลี่ย 18 – 19 เท่า)

 

โดยหุ้นในตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นหุ้นที่มีการซื้อแพงสุด ๆ โดยซื้อขายกันบน P/E Ratio แถว ๆ 60 เท่า รองลงมาเป็นหุ้นดัชนี sSET Index (ดัชนีราคาหุ้นที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นอยู่นอกเหนือดัชนี SET50 และ SET100) ที่ซื้อขายกันบน P/E Ratio แถว ๆ 35 – 40 เท่า

 

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าหุ้นไทยจะไม่สามารถเข้ามาลงทุนได้ เพราะมีหุ้นประเภทหนึ่งที่ยังคงสามารถลงทุนได้ภายใต้แรงกดดันถาโถมเข้ามา นั่นคือ หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีแต่ซื้อขายที่ P/E Ratio ระดับต่ำ ซึ่งถือเป็นหุ้นสำหรับการรับมือในช่วงแบบนี้

 

ในภาวะตลาดผันผวนและมีความเสี่ยงอยู่ข้างหน้า นักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส แนะนำลดการลงทุนในหุ้นที่มี P/E Ratio สูง แล้วหันกลับมาเลือกหุ้นขนาดใหญ่พื้นฐานแข็งแกร่ง และมี P/E Ratio ต่ำ น่าจะปลอดภัยกว่า

 

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats