นิสัยทางการเงินของคนแต่ละ Gen
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ชวนมาดู ‘นิสัยทางการเงิน’ ของทั้ง 4 Gens
จะมี ‘นิสัย–เป้าหมาย’ ต่างกันอย่างไร…มาดูกันเลย
Baby Boomer
กลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2489-2507 หรือ อายุ 59 ปีขึ้นไป คนกลุ่มนี้เติบโตมาพร้อมกับการแข่งขัน ทำงานหนัก มีความอดทนสูง มีความประหยัด และที่สำคัญมีความรอบคอบในการดำเนินชีวิตอย่างมาก เนื่องจากเป็นยุคที่โลกกำลังพัฒนาเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม เพราะเป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองสงบลง มุมมองในเรื่องการเงินของคนกลุ่มนี้จึงค่อนข้าง Play Safe ไม่มุ่งหาความเสี่ยงที่มากเกินจะรับไหว เป็นช่วงที่เข้าสู่วัยผู้สูงอายุ และจะคิดถึงทายาทรุ่นหลังในการสืบทอดมรดกของตัวเอง ดังนั้นการเก็บออมถือเป็นสิ่งที่คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญ เช่น การวางแผนภาษี หรือ การเก็บเงินในกองทุนที่มีความผันผวนต่ำ ความเสี่ยงต่ำ แต่มูลค่าเงินต้นต้องยังคงสภาพอยู่
Gen X
กลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2508-2522 หรือ อายุ 44-58 ปี เป็นกลุ่มคนที่เกิดมาในยุคที่เศรษฐกิจกำลังพัฒนาอย่างมาก และเป็นช่วงที่อยู่ในวัยที่กำลังสร้างครอบครัว ทำให้มีลักษณะที่เชื่อมั่นและเป็นตัวของตัวเองสูง ที่สำคัญมีความคิดสร้างสรรค์และใช้เงินเก่ง ซึ่งมีโอกาสที่จะสร้างหนี้และใช้เงินเกินตัว ถึงแม้ว่าจะมีศักยภาพหารายได้ได้มากก็ตาม โดยมุมมองในเรื่องการเงินของคนกลุ่มนี้จะกล้าแบกรับความเสี่ยงได้พอสมควร ทำให้การวางแผนทางการเงินของคนกลุ่มนี้ควรต้องจัดสรรเงินออมให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตโดยต้องบังคับตัวเองว่าห้ามนำเงินส่วนการออมเพื่อชีวิตหลังเกษียณมาจับจ่ายใช้สอย มองความสะดวกสบายเป็นโจทย์ในการใช้ชีวิต จึงยอมแลกกับเม็ดเงินจำนวนมากเพื่อซื้อความสบายให้ตัวเองและครอบครัว
Gen Y
กลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2523-2540 หรือ อายุ 26-43 ปี เป็นกลุ่มคนที่เกิดมาในยุคดิจิทัล และได้รับอิทธิพลจากเทคโนโลยีไปเต็มๆ รวมถึงเป็นยุคที่สื่อ Social Media มีบทบาทที่สำคัญอย่างมาก ทำให้คน Gen Y ไม่ยึดติดกับค่านิยมเดิมๆ เน้นเติมความสุขให้ตัวเองแบบไม่รีรอ ด้วยการใช้จ่ายไปกับ อาหาร เครื่องดื่มราคาสูง และ การท่องเที่ยวในที่ที่อยากไปทั้งในและต่างประเทศ และชอบสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น ของแบรนด์เนม รถหรู ที่เชื่อว่าสิ่งของเหล่านี้สะท้อนความมั่งคั่งให้กับตัวเอง ถึงแม้จะสวนทางกับรายรับที่หาได้ ถือเป็นไลฟ์สไตล์ที่เป็นคนรุ่นใหม่อย่างเต็มตัว พื้นฐานนิสัยชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มุมมองในเรื่องการเงินของคนกลุ่มนี้จึงกล้าได้กล้าเสีย และพร้อมแบกรับความเสี่ยงที่สูงหากต้องลงทุนในสินทรัพย์ หุ้น หรือ กองทุนรวมต่างๆ เพราะมีเป้าหมายต่อผลตอบแทนที่ต้องสูงและต้องงอกเงย ที่สำคัญเป็นช่วงอายุที่เริ่มเข้าสู่วัยทำงาน และพิสูจน์ความสามารถ รายได้สามารถรับได้มากกว่าหนึ่งทางเพราะชอบความท้าทาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ถนัดกับการเก็บออม ชอบใช้จ่ายไปเพื่อสนองความสุข ความต้องการของตัวเองมากกว่า
Gen Z
กลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2540 ขึ้นไป หรือ อายุต่ำกว่า 26 ปี เป็นช่วงวัยที่เพิ่งผ่านพ้นวัยเด็ก แต่มีความต้องการที่แน่ชัดกับชีวิตตัวเอง มีแผนการและเป้าในการดำเนินชีวิตอย่างชัดเจน ที่สำคัญกลับกลายมาเป็นกลุ่มคนที่หลายๆ ธุรกิจจับจ้องเพื่อดึงมาเป็นฐานลูกค้าชั้นดี อันเนื่องมาจาก Gen Z เติบโตมาในโลกที่ความผันผวนทางการเงินและเศรษฐกิจของโลกเป็นเรื่องปกติ ทำให้การปรับตัวต่อสถานการณ์ต่างๆ เป็นเรื่องง่ายและไม่ใช่ปัญหา ซึ่งนับเป็นสิ่งที่หลายๆ ธุรกิจต้องการหยิบยื่นผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้ ดังนั้น หากทำความเข้าใจกับมุมมองด้านการเงินของคนรุ่นนี้ จะพบว่า กลุ่ม Gen Z มองว่าการลงทุนไปกับการเดินทางท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่คุ้มค่าเสมอ และเมื่อจัดลำดับสิ่งที่คนรุ่นนี้จะนำเงินไปใช้จ่าย ผลปรากฏว่า มุมมองการออมเงินเป็นเรื่องใหญ่ และยังพอมีเวลาให้เก็บออมอีกกว่าครึ่งชีวิต จึงให้ความสำคัญน้อยกว่าการเดินทางท่องเที่ยว แต่ที่น่าสนใจคือ การใช้เงินซื้อของต่างๆ กลับไม่ใช่สิ่งที่คนกลุ่มนี้ต้องการมากนักเมื่อเทียบกับ Gen Y
แน่นอนว่าแต่ละ Generation มีไลฟ์สไตล์ เป้าหมายของชีวิตและการเงิน ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยมีเส้นแบ่งตามช่วงอายุ และยุคที่แต่ละกลุ่มต้องเกิดมาตามสถานการณ์ของโลกที่แตกต่างกันไป สิ่งเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลที่สะท้อนพฤติกรรม ความคิด และความคาดหวังจากผู้บริโภคที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าของธุรกิจในการพัฒนา หรือนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการอย่างไรให้สามารถเข้าถึงความต้องการได้