5 วิธีคิดแบบ ‘เศรษฐี’
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line
ชวนมาดู 5 วิธีคิดแบบ ‘เศรษฐี’…เรากำลังคิดแบบคนรวยกันอยู่หรือเปล่า?
‘เศรษฐีจะหยุดคิดเมื่อหาทางออกไม่ได้ แต่จะหันมาใช้จินตนาการ’
การคิดนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่การคิดมากจนเกินไปจะทำให้เราวนอยู่ในความคิดของตนเอง เมื่อคิดจนสุดทางแล้วยังไม่สามารถหาคำตอบหรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้ ให้หยุดคิดและหันมาใช้จินตนาการ
ยกตัวอย่าง เศรษฐีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ใช้จินตนาการแทนความคิด สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับวงการธุรกิจได้ ได้เปลี่ยนระบบการขายบ้าน จากการที่บ้านสร้างเสร็จจะถูกโอนหลังจากลูกค้าผ่อนดาวน์หมดแล้ว เปลี่ยนเป็น ‘บ้านสร้างเสร็จก่อนขาย’ พลิกโฉมวงการอสังหาริมทรัพย์ สาเหตุที่ทำบ้านสร้างเสร็จก่อนขายก็เพื่อความคุมคุณภาพได้ก่อนส่งมอบถึงมือลูกค้า ทำแบบนี้โอกาสที่ลูกค้าจะยกเลิกออเดอร์มีน้อยมาก และบ้านคุณภาพตกก็มีน้อยเช่นกัน ทำให้รายได้ และกำไรของกิจการดีขึ้น จนก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งในวงการอสังหาริมทรัพย์นั่นเอง
โดยไอเดียดีๆ นี้มาจากการจินตนาการของเศรษฐีที่ต้องการเห็น ‘รอยยิ้ม’ ของผู้ซื้อบ้านนั่นเอง
‘เศรษฐีมักคิดให้ง่าย แต่คนส่วนใหญ่ยังคิดไม่ถึง’
สำหรับเศรษฐีนั้นมักจะใช้ความคิดง่ายๆ แต่คนส่วนใหญ่ยังคิดไม่ถึง ยกตัวอย่างเช่น ความคิดของนักลงทุนระดับโลก ‘Warren Buffett’ ก็ไม่ได้ใช้แนวคิดที่ซับซ้อนในการซื้อหุ้น แต่ใช้ความคิดง่ายๆ เพียงแค่ ‘ซื้อหุ้นให้เหมือนกับเราเป็นเจ้าของบริษัท’ ซึ่งความคิดทำนองนี้จะไม่อยู่ในหัวของคน ‘เทรดหุ้น’ หรือคนที่ซื้อขายหุ้นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน มันเป็นแนวคิดที่ง่าย ที่หลายคนมองข้าม และไม่เคยที่จะนึกถึง แต่มันก็ทำให้ Warren Buffett กลายเป็นมหาเศรษฐีนักลงทุนได้
‘เศรษฐีจะไม่ใช้เวลาทั้งชีวิตหาเงิน แต่จะใช้เวลาส่วนหนึ่งของชีวิตหาเงิน เพื่อใช้ตลอดชีวิต’
เคล็ดลับการเป็นเศรษฐีนี้จะทำให้เราหาวิธีการที่จะทำให้เราใช้เวลาแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตเพื่อหาเงินที่จะใช้ไปทั้งชีวิต นี่เป็นแนวคิดพื้นฐานของผู้ประกอบการ นักลงทุน นักนวัตกรรม นักประดิษฐ์ เพราะเมื่อประสบความสำเร็จ เงินทองจะไหลมาเอง และเราก็จะเป็นเศรษฐี เพื่อมีชีวิตที่เหลือใช้เงินที่เราหามาได้
แต่ก็มีเศรษฐีหลายคนเดินตามทางนี้แล้ว ก็ยังไม่หยุดที่จะทำงาน นั่นก็เพราะงานเหล่านั้นเป็นงานที่เขารักที่จะทำ และอยากจะทำมันตลอดไปนั่นเอง
‘คนทั่วไปมักจะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่เศรษฐีมักจะทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก’
คนทั่วไปมักจะใส่ใจกับเรื่องเล็กๆ ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ หรือไม่ทำให้เกิดสิ่งสำคัญใหญ่ๆ กับชีวิต ยกตัวอย่างเช่น ใส่ใจในเรื่องของดารานักร้อง ติดตามว่าใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร หรือสนใจกับคำนินทามากจนเกินไป นั่นทำให้คนเหล่านั้นเสียเวลาเปล่า แต่พอต้องเจอกับเรื่องใหญ่ๆ จะมองว่า ‘ยาก’ หรือ ‘เป็นไปไม่ได้’
ผิดกับนิสัยเศรษฐีที่จะมองเรื่องยากๆ ให้ง่าย ทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก และไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยที่ทำให้เสียเวลานานจนเกินไป
‘คนทั่วไปจะมองที่ปัญหา ในขณะที่เศรษฐีจะมองที่ทางออก’
ปัญหามีอยู่แทบจะทุกที่ทั่วโลก ทั้งปัญหาเล็กๆ ระดับบุคคล และปัญหาใหญ่ๆ ระดับประเทศ ระดับโลก สาเหตุหนึ่งเพราะคนทั่วไป ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่นั้นมองเห็นแต่ตัวปัญหา ปัญหาจึงเติบโตล้นโลก ผิดกับคนส่วนน้อย ซึ่งเป็นเศรษฐีจะมุ่งไปที่ทางออก โลกของเศรษฐีจึงเต็มไปด้วยความสำเร็จและความมั่งคั่ง ไม่ใช่เต็มไปด้วยปัญหา