5 หุ้นคุณค่าน่าศึกษาช่วงตลาดผันผวน
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line
Wealth Me Up คัดมาให้แล้ว!…5 หุ้นคุณค่า น่าศึกษาเพื่อเก็บเข้าพอร์ต
มีตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง มาเช็กกันเลย…
หุ้นคุณค่า (Value Stock) คือหุ้นของบริษัทที่ซื้อขายในราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง จึงเป็นโอกาสทองที่อาจสร้างผลตอบแทนงดงามสำหรับนักลงทุนที่มีความอดทน ที่กำลังมองหาความมั่นคงและการเติบโตในระยะยาว โดยหุ้นคุณค่าสะท้อนจากธุรกิจที่มีรากฐานมั่นคง มีโมเดลธุรกิจแข็งแกร่งเป็นที่พิสูจน์แล้ว แต่กำลังถูกตลาดประเมินมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง ถึงแม้ว่าการดำเนินธุรกิจอาจไม่ได้เสนอศักยภาพการเติบโตแบบก้าวกระโดดเหมือนบริษัทเทคโนโลยีเกิดใหม่หรือบริษัทที่เน้นการเติบโต แต่หุ้นคุณค่าชดเชยด้วยด้านอื่นๆ เช่น กระแสเงินสดที่แข็งแกร่งผลตอบแทนเงินปันผลที่สูงและสม่ำเสมอ
โอกาสของ VI ท่ามกลางตลาดผันผวน
เมื่อตลาดหุ้นผันผวน นักลงทุนส่วนใหญ่มักตื่นตระหนกและรีบขายหุ้น แต่สำหรับนักลงทุนแนวเน้นคุณค่า (Value Investor: VI) นี่คือ ช่วงเวลาทอง ในการเข้าซื้อ “หุ้นดี ราคาถูก”
การลงทุนแบบ VI ไม่ใช่แค่การมองหา “หุ้นถูก” เท่านั้น แต่เป็นเหมือนการสวมบทนักสืบทางการเงิน ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ในการวิเคราะห์พื้นฐานธุรกิจ เพื่อเฟ้นหาหุ้นที่ แข็งแกร่ง เติบโตได้ และมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
เมื่อราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน อาจหมายความว่าตลาดยังมองข้ามศักยภาพของบริษัท แต่หากธุรกิจยังคงเติบโตต่อเนื่อง นักลงทุน VI ที่มองเห็นโอกาสก่อนใคร ย่อมมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน ก่อนที่ตลาดจะตระหนักและปรับราคาขึ้น โดยหลักการสำคัญของ VI คือ “ถูก ดี และมีอนาคต” และช่วงตลาดผันผวน คือ เวลาที่ดีที่สุดในการพิสูจน์แนวคิดการเลือกลงทุนหุ้นคุณค่า
ทำไม? ควรมีหุ้นคุณค่าในพอร์ตการลงทุน
1. มีความมั่นคงและความผันผวนที่ต่ำ
หุ้นคุณค่ามักมาจากบริษัทที่มีความมั่นคงพร้อมโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่ง ทำให้มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความผันผวนของราคาที่รุนแรงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นเติบโต จึงสามารถช่วยรองรับในช่วงตลาดขาลงและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้ดี
2. ได้ผลตอบแทนจากเงินปันผล
หุ้นคุณค่าหลายตัวจะจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอและมักมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่สูง จึงเป็นการสร้างกระแสรายได้ที่มั่นคงกับนักลงทุน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหารายได้แบบ Passive Income หรือวัยเกษียณ
3. มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาว
แม้ว่าหุ้นคุณค่าอาจไม่สร้างผลตอบแทนจากกำไรส่วนต่างราคาหุ้น (Capital gain) ในทันที แต่หุ้นคุณค่ามักเพิ่มมูลค่าของเงินทุนในระยะยาว
4. มีการกระจายความเสี่ยง
เมื่อพอร์ตการลงทุนมีหุ้นคุณค่า จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับพอร์ตการลงทุน ช่วยสร้างความสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้น เพราะหุ้นประเภทนี้จะมาจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความทนทานในทุกสภาพตลาดเช่น สาธารณูปโภค สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และการดูแลสุขภาพ ซึ่งมักมีผลการดำเนินงานที่ดีในช่วงเศรษฐกิจถดถอย
5. มีโอกาสในการปรับราคา
หุ้นคุณค่า ซึ่งมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง มีโอกาสสูงกว่าที่จะเกิดการปรับราคาในทางบวกเมื่อตลาดรับรู้ถึงมูลค่าที่แท้จริง ดังนั้น เมื่อลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ ก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับที่น่าประทับใจ
