ล. โลกร้อน
ระยะปีสองปีหลังนี้ ใครๆก็คงได้ยินเรื่องปัญหาภาวะโลกร้อน แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ มีพระราชดำรัสถึงเรื่องโลกร้อนนี้มาเกือบ ๒๐ ปี ก่อนแล้ว ในการพระราชทานพระราชดำรัสในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๒ ความว่า
“…ได้ข้อมูลมาเกี่ยวกับเรื่องเรื่องหนึ่ง ซึ่งเขาเดือดร้อนกันทั่วโลก คือความเดือดร้อนที่ทุกคนจะต้องประสบ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะได้รู้…เขาบอกว่าเพราะมีสารคาร์บอนขึ้นไปในอากาศมากจะทำให้เหมือนเป็นตู้กระจกครอบ แล้วโลกนี้ก็จะร้อนขึ้น…นํ้าแข็งจะละลายลงทะเลและรวมทั้งน้ำในทะเลนั้นจะพองขึ้น เพราะสิ่งของที่ร้อนย่อมมีการพองขึ้น ปริมาตรก็มากขึ้น เมื่อน้ำพองขึ้นก็จะทำให้ที่ที่ต่ำเช่นกรุงเทพฯ ถูกน้ำทะเลท่วม…
“…สิ่งที่ทำให้คาร์บอน(ในรูปคาร์บอนไดออกไซด์)ในอากาศเพิ่มมากขึ้นนั้น มาจากการเผาเชื้อเพลิงซึ่งอยู่ในดินและจากการเผาไหม้…การเผาเชื้อเพลิง เช่น ถ่าน ถ่านหิน น้ำมัน เชื้อเพลิงอะไรๆ ต่างๆ เหล่านี้ทั้งหมดทำให้คาร์บอนขึ้นไปในอากาศจำนวน ๕ พันล้านตันต่อปีแล้วก็ยังมีการเผาทำลายป่าอีก ๑.๕ พันล้านตัน รวมแล้วเป็น ๖.๕ พันล้านตัน…ถ้าไม่มีอะไรที่จะทำให้จำนวนของสารนี้ในอากาศลดลง ก็จะทำให้สารนี้เป็นเหมือนตู้กระจกครอบทำให้โลกนี้ร้อนขึ้น…”
พระราชดำรัสครั้งนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นให้หน่วยราชการและเอกชนหันมาใส่ใจและรณรงค์เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ คณะรัฐมนตรี จึงมีมติประกาศให้วันที่ ๔ ธันวาคมของทุกปีเป็น “วันสิ่งแวดล้อมไทย”
ที่มา : หนังสือ ตามรอยพ่อ ก-ฮ ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์