×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

ซื้อมือถือใหม่ โปรฯไหนคุ้มสุด

3,301

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

มือถือตัวท็อปสุดตอนนี้คงหนีไม่พ้น iPhone XS Max ซึ่งมีราคาสูงสุดอยู่ที่ 57,900 บาท โดยมีโปรโมชันต่างๆ เพื่อซื้อเครื่องใหม่จากร้านค้ามากมายให้เลือก แต่โปรโมชันไหนจะคุ้มค่าที่สุด เราลองมาค่อยๆ หาคำตอบกัน

เครดิตเงินคืน

เสมือนเป็นส่วนลดค่าเครื่อง ที่มักกำหนดเป็นจำนวนเงิน เช่น 2,000 บาท หรือเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 4% ของราคาเครื่อง (4% x 57,900 = 2,316 บาท)

 

คะแนนสะสมแลกเครดิตเงินคืน

รู้ไหมว่าคะแนนสะสมที่มีอยู่ในบัตรมีมูลค่าเท่าไหร่ โดยปกติมักเท่ากับ 10% ของคะแนนสะสม เพราะ 1,000 คะแนน สามารถแลกสินค้าหรือเงินสดได้ 100 บาท

 

โปรโมชันที่ว่า เช่น ใช้คะแนนเท่ายอดซื้อเพื่อแลกส่วนลด 21% ดังนั้นหากหักต้นทุนของคะแนนออกแล้ว พบว่าโปรโมชันนี้เสมือนได้ส่วนลดค่าเครื่อง 11% หรือ 6,369 บาท

 

รับคะแนนสะสมพิเศษ

ปกติการใช้จ่ายบัตรเครดิตทุก 25 บาท จะได้รับ 1 คะแนน ดังนั้นหากใช้บัตรเครดิตซื้อ iPhone รุ่นนี้ ปกติจะได้รับ 2,316 คะแนน (= 57,900 ÷ 25)

 

สำหรับโปรโมชันที่ว่า เช่น รับคะแนนสะสมพิเศษ 10 เท่า แสดงว่าจะได้รับ 23,160 คะแนน ซึ่งสูงกว่าปกติ 20,844 คะแนน หรือเสมือนได้ส่วนลดค่าเครื่อง 2,084 บาท (10% ของคะแนน)

 

ผ่อน 0%

ระยะเวลา 6 – 24 เดือน เป็นโปรโมชันที่แปลงเป็นตัวเงินยากที่สุด เพราะขึ้นอยู่กับต้นทุนค่าเสียโอกาสของแต่ละคน เช่น หากนำเงินก้อนหนึ่งไปฝากไว้ในเงินฝากดอกเบี้ยพิเศษ 1.70% ต่อปี (อ้างอิง ME By TMB ที่เริ่มใช้ 1 มี.ค. 60) และทยอยถอนทุกเดือน เพื่อนำไปชำระค่าเครื่องเดือนละ 2,412.50 บาท เป็นเวลา 24 เดือน หากคำนวณผลประโยชน์จากดอกเบี้ยแล้วต้องฝากเงิน 56,887 บาท ไว้ในบัญชีดังกล่าวตั้งแต่วันที่ซื้อเครื่อง หรือเสมือนได้ส่วนลดค่าเครื่อง 1,013 บาทนั่นเอง

 

ส่วนลดเมื่อสมัครแพ็กเกจรายเดือน

จากการเช็กข้อมูล 3 ค่ายหลักตอนนี้ ลูกค้าทั่วไปจะได้รับส่วนลดสูงสุด 7,700 บาท หากสมัครแพ็กเกจรายเดือน 1,499 บาท แต่คำถามคือแพ็กเกจดังกล่าวส่งผลให้เกิดต้นทุนค่าบริการ “ส่วนเกินจำเป็น” หรือไม่ และคิดเป็นจำนวนเท่าไร

 

สำหรับแพ็กเกจแบบอินเทอร์เน็ตไม่จำกัดของทั้ง 3 ค่ายหลัก ค่าบริการรายเดือนต่ำสุดอยู่ที่เดือนละ 899 บาท ดังนั้นหากการใช้งานมือถือเน้นเฉพาะการใช้อินเทอร์เน็ตแล้ว แสดงว่ามีค่าบริการ “ส่วนเกินจำเป็น” อยู่ที่เดือนละ 600 บาท และหากคูณด้วยระยะเวลาสัญญาที่มักอยู่ที่ 12 เดือน จะเท่ากับ 7,200 บาท

 

หากเทียบกับส่วนลด 7,700 บาท ที่ได้แล้ว เสมือนได้ส่วนลดค่าเครื่องเพียง 500 บาทเท่านั้น โดยยังไม่รวมต้นทุนค่าเสียโอกาสที่ต้องจ่ายค่าบริการล่วงหน้าอีกก้อนหนึ่งด้วย

มาถึงตรงนี้คงประเมินกันได้แล้วว่า โปรโมชันรูปแบบไหนน่าจะคุ้มค่าที่สุด แต่อย่าลืมว่านี่เป็นเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณาอีก เช่น  ไม่ได้ถือบัตรเครดิตที่ร่วมโปรโมชัน คะแนนสะสมไม่เพียงพอ มีทางเลือกเงินฝากที่ดอกเบี้ยสูงกว่า รวมไปถึงโปรโมชันมักประกอบด้วยหลายรูปแบบทั้งเครดิตเงินคืนและผ่อน 0% ดังนั้นการประเมินว่าทางเลือกไหนคุ้มค่าที่สุด คงต้องทำการบ้านก่อนตัดสินใจซื้อไม่น้อยเลย

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats