จะเฟ้นหา ‘คนดี คนเก่ง’ มาร่วมงานด้วยว่ายากลำบากแล้ว จะรักษาคนเหล่านั้นให้อยู่กับองค์กรอย่างมีความสุขเป็นเรื่องยากยิ่งกว่า ถ้าไม่อยากสูญเสีย ‘คนดีมีฝีมือ’ ก็แค่หันกลับมาทบทวนดูว่าหัวหน้างานหรือบริษัทได้ทำข้อผิดพลาดแบบนี้บ้างหรือเปล่า
‘Amazon.com’ บริษัทค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ เพิ่งประกาศซื้อกิจการ ‘Whole Foods’ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยวงเงิน 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ปลุกความสนใจของผู้คนจำนวนมากในฐานะดีลที่อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกม (game-changer) ในธุรกิจค้าปลีก ทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์…ความน่าสนใจของดีลนี้อยู่ที่
หลายองค์กรประเมินผลงานพนักงานกันเป็นรายปี แต่ก็มีบางแห่งจัดกันปีละ 2 ครั้ง เพื่อตรวจเช็คการทำงานของพนักงาน รวมไปถึงความรู้สึกนึกคิด ไม่ว่าองค์กรจะใช้การประเมินแบบใด สิ่งสำคัญคือ พนักงานต้องสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมี 5 ประโยคที่ไม่ควรเอ่ยออกมา
และแล้วก็มาถึงวันที่พวกเราเหล่า “มนุษย์เงินเดือน” ผู้ถวิลหาอิสระในชีวิต คิดและบ่นดังๆเป็นเสียงเดียวกันว่า “อยากลาออก มาทำธุรกิจ” ไม่แปลกถ้าจะคิดเช่นนี้ แต่ก่อนเดินไปยื่นซองขาว อยากชวนคิดต่อสักนิดว่า.. “ถ้าไม่ต้องลาออกจากงานประจำ จะทำธุรกิจได้ไหม? คำตอบ คือ “ได้”
“เราถูกปลูกฝังให้เรียนให้สูง และเรียนให้เก่งมากกว่าการค้นหาลักษณะเฉพาะ และความถนัดของตัวเราเอง” นี่คือคำพูดของ สุรชัย พุฒิกุลางกูร อิลัสเตรเตอร์โฆษณา อันดับ 1 ของโลก คุณคิดว่าจริงมั้ย? ไปอ่านนิทานเรื่องนี้ดู…
“FriYAY” คือ Hashtag ใหม่ที่เหล่าคนทำงานนิยมใช้กันในช่วงนี้ ซึ่งมาจากการควบรวม 2 คำคือ “Friday” และ “YAY” ไว้ด้วยกัน หรือถ้าจะแปลง่ายๆ ก็คือ “เย่…วันศุกร์แล้ว” แม้วันหยุดจะเป็นช่วงเวลาความสุขของใครต่อใคร แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ใช้ช่วงวันหยุดเป็น “นาทีทอง” ในการก้าวนำคนอื่นเพื่อให้เข้าใกล้ “ความสำเร็จ” และนี่คือสิ่งที่คนเหล่านั้นทำให้วันหยุด!
Harvard University คือ มหาวิทยาลัยระดับตำนานที่ดีและเข้ายากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในแต่ละปีภาคเรียนจะมีผู้สมัครเข้าเรียนมากถึงกว่า 39,000 คน แต่มีเพียง 5.4% เท่านั้นที่เก่งพอจะผ่านเกณฑ์เข้าไปได้ แต่เร็วๆนี้ ฮาวาร์ดสร้างปรากฎการณ์ช็อกโลก ด้วยการยับยั้งการเข้าเรียนต่อของนักศึกษาใหม่ไม่น้อยกว่า 10 คน เพราะพวกเขาเหล่านั้นดันไปโพสข้อความด้วยเนื้อหาและถ้อยคำอันไม่เหมาะสม ในกลุ่มที่สร้างขึ้นมาเป็นการเฉพาะให้กับนักศึกษาใหม่บนโซเซียลมีเดียชื่อดังอย่าง Facebook
คำถามคือ เด็กๆเหล่านั้นโพสอะไรลงไป?
ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เรา “มั่งคั่ง” ได้มีด้วยกัน 3 อย่าง คือ เงินต้น ดอกเบี้ย และระยะเวลา โดยส่วนที่ใครหลายคนให้ความสำคัญก็คือ “เงินต้น” ซึ่งคนธรรมดาสามัญอย่างเรา มีวิธีการ “ใช้แรงทำเงิน” ที่คล้ายกันคือ “การทำงาน” นิตยสาร President ของญี่ปุ่น ทำการสำรวจความแตกต่างของบรรดามนุษย์เงินเดือน ระหว่างคนที่รายได้สูง และมีรายได้น้อย…ว่าคนเหล่านี้มีอุปนิสัยที่เหมือนหรือต่างกันอย่างไร? ไปดู…นิสัย 4 ข้อของคนมี “รายได้เยอะ” กัน
Earl Nightingale นักสร้างแรงบันดาลใจชาวอเมริกันเคยพูดว่า “เราจะเป็นอย่างที่เราคิด” ถ้าแป็นเช่นนั้นแล้ว…หากเราไม่อยากเป็นอย่างไร ก็ไม่ควรทำอย่างนั้น! และนี่คือ 9 สิ่งที่เราต้องเลิกทำ ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เดินไปใกล้คำว่า “สำเร็จ”
อีกไม่นาน ‘Game of Thrones’ ซีซั่นใหม่ก็จะออนแอร์ให้แฟนๆ ลุ้นกันติดขอบจอกันอีกครั้ง เป็นซีรีย์ที่ตัวละครต้องต่อสู้ชิงไหวชิงพริบกันตลอดเวลาทั้งเพื่อความอยู่รอดส่วนตัวและเป้าหมายสูงสุดคืออำนาจครองบัลลังก์เหล็กของอาณาจักร ‘Seven Kingdoms’ แห่งทวีป ‘Westeros’
นอกจากความบันเทิงบนหน้าจอแล้ว ซีรีย์เรื่องนี้ก็ “มีข้อคิดให้เราได้เรียนรู้และสามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานทำธุรกิจได้” โดย www.time.com แชร์มุมมองเหล่านี้ไว้ได้อย่างน่าสนใจ
“ต้องปรับ ต้องเปลี่ยน ไม่งั้นธุรกิจคุณหายไปแน่!” | นี่คือหนึ่งในเนื้อหาของบทสนทนาระหว่างรอขึ้นเวทีของผู้ร่วมเสวนา “พลิกโฉมธุรกิจสู่ยุค SME 4.0 สำหรับธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์” ที่ KBANK จัดขึ้นเมื่อปลายเดือน พ.ค. 60 ที่ผ่านมา หลังจากถ้อยคำนั้นจบลง ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ไม่ต่างจากหลายเวทีที่ได้ร่วมพูดคุยกับ SME น้อยใหญ่ หนึ่งคำพูดที่มักได้ยินเสมอก็คือ “ทำธุรกิจสมัยนี้ ไม่เหมือนสมัยก่อน” | WealthMeUp ขอนำบทสรุปของแง่คิดจากบุคคลเหล่านี้มาแบ่งปัน…
หลายคนคิดว่า การท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมที่ไม่มีประโยชน์ต่อการทำงาน แต่แท้จริงแล้วกลับมีประโยชน์ที่จับต้องได้นับร้อย โดยเฉพาะสำหรับคนที่จัดอยู่ในประเภทอุทิศชีวิตให้กับการทำงาน
และนี่คือเหตุผลที่ว่า…ทำไมการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ดีต่อการทำงาน!
เศรษฐีแห่งวงการ E-commerce อย่าง ‘Jeff Bezos’ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ ‘Amazon.com’ ได้ใช้เวลาเกือบครึ่งชีวิตสร้างอาณาจักรธุรกิจค้าปลีกออนไลน์จนมายืนอยู่แถวหน้าของโลกในปัจจุบัน และได้กลายเป็นแรงบันดาลใจของสตาร์ทอัพยุคนี้ แต่กว่าจะถึงวันนี้ได้ ‘Bezos’ ก็ต้องดิ้นรนไม่น้อย ธุรกิจที่เขาสร้างไม่ได้ประสบความสำเร็จทันทีทันควัน หรือทำกำไรได้ภายในไม่กี่เดือน แต่กลับใช้เวลานานถึง 6 ปี กว่าที่บริษัทจะทำกำไรครั้งแรกได้เบาๆ แค่ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากรายได้กว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
