ปัจจุบันหนึ่งในกระแสการลงทุนหลักในอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทย ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการลงทุนในต่างประเทศที่เม็ดเงินเติบโตมาตลอด ปัจจุบันมีเงินลงทุนกว่า 1.129 ล้านล้านบาท และมีกองทุน FIFs เปิดขายใหม่อยู่ทุกสัปดาห์ อย่างไรก็ตามการลงทุนในกองทุนประเภท FIFs นั้นใช่ว่าจะมีแต่ข้อดี ข้อด้อยก็มีด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งนั่นก็คือ เรื่องของค่าใช้จ่ายของกองทุนและค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ภายในประเทศ
International Living’ s Global Retirement Index ทำการจัดอันดับประเทศที่น่าไปใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ปรากฎว่าประเทศไทยมีต้นทุนการดำรงชีวิตยังอยู่ในระดับต่ำ จึงเหมาะกับการใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายอย่างมาก คำถามคือหากต้องการใช้ชีวิตหลังเกษียณที่เมืองไทย ต้องมีเงินเท่าไหร่
CAN SLIM เป็นเทคนิคการคัดเลือกหุ้น เน้นค้นหาหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูง ผ่านเครื่องมือวิเคราะห์ผสมผสานกันระหว่างทางด้านปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค
หลายๆ บริษัทใหญ่ในโลกนี้ไม่ว่าจะเป็น Amazon หรือ Google ต่างลงทุนซื้อกิจการในบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ Automation & Robotics แล้วทั้งสิ้น แล้วเราในฐานะนักลงทุนตัวเล็กๆ จะมีโอกาสได้ลงทุนเกาะไปกับกระแสโลกหรือไม่ เป็นโชคดีของนักลงทุนไทย ที่ขณะนี้มี 2 บลจ. ที่กำลังทำการขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมที่เน้นลงทุนใน Automation & Robotics เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนไทย
ประกันชีวิตส่วนใหญ่เป็นสัญญาระยะยาวอายุกรมธรรม์ 10 ปีขึ้นไป จึงเป็นไปได้มากที่ตอนทำประกัน เราคิดว่ามีเงินพอจ่ายเบี้ย แต่พอผ่านไปสักระยะกลับมีเงินไม่พอ ซึ่งหากเงินไม่พอชำระเบี้ย ก็ยังมีทางออกถึง 9 วิธีด้วยกัน
International Living’ s Global Retirement Index ทำการจัดอันดับประเทศที่น่าไปใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ปรากฏว่าเวียดนามเป็นประเทศหนึ่งที่เหมาะมาก สามารถใช้ชีวิตอย่างสบายหลังวัยเกษียณด้วยเงิน 800 – 1,200 ดอลลาร์ต่อเดือน มาดูกันว่าหากมีเงินเก็บ 2 แสนดอลลาร์ หรือ 6.6 ล้านบาท เราจะใช้ชีวิตหลังเกษียณที่เมืองไหนในเวียดนามได้บ้าง
Marc Reinganum นักลงทุนและผู้จัดการกองทุนในสหรัฐอเมริกา ทำการศึกษาวิจัยเพื่อหา Stock Market Winner ผ่านเครื่องมือ และเงื่อนไข 5 ข้อที่ใช้คัดกรองหุ้น หากนำวิธีของ Reinganum มาคัดกรองหุ้นในตลาดหุ้นไทย ณ วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา พบว่ามีหุ้น 6 ตัวที่เข้าเกณฑ์ เป็นหุ้นที่ราคายังถูกเมื่อเทียบกับคุณภาพที่คับแก้ว
การจัดพอร์ตกองทุนรวมแบบเชิงรุก เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงๆ วัย 25 – 35 ปี เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่โลกการทำงาน เพราะพอร์ตสไตล์นี้มีความเสี่ยงมาก แต่ผลตอบแทนก็สูงด้วย
การลงทุนเพื่อสร้างรายได้ให้มีใช้ไปตลอดชีวิต เริ่มต้นด้วยการแบ่งเงินออกเป็น 4 ก้อน โดยใช้ช่วงระยะเวลาเป็นตัวกำหนด จากนั้นก็นำไปออม ไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ตามความเหมาะสม
เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้ออกกฎหมายปรับปรุงเงื่อนไขที่เกี่ยวกับการซื้อ RMF หรือ LTF หรือประกันบำนาญ จากเดิม ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ในแต่ละปี แก้เป็นลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี ในแต่ละปีนั่นหมายความว่าฐานเงินได้ที่เราจะนำมาซื้อประกันบำนาญ RMF หรือ LTF จะลดลงจากการปรับปรุงเงื่อนไขดังกล่าว
“เงิน” เป็นปัจจัยสำคัญของชีวิต ทุกคนต่างต้องการ “มีเงิน” มากกว่า “ไม่มีเงิน” แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าคำว่า “เงิน” ก็คือการออมเงิน เพราะหากเรามีเงินเก็บออม ย่อมทำให้เรามีคุณภาพชีวิต “ดีขึ้น” และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการให้ “ชีวิต” ดี…กว่าที่เคย นี่คือวิธีการจัดการเงินง่ายๆ ที่ต้องทำ
การจัดพอร์ตกองทุนรวมแบบกลางๆ (Moderate) เหมาะกับวัยที่มีสถานะทางการเงินแข็งแรงและให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณ พอร์ตการลงทุนควรประกอบด้วยสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงบ้าง เพื่อให้ผลตอบแทนที่ได้สูงกว่าเงินเฟ้อ
ทุกคนสามารถมีเงินเก็บ 1 ล้านบาทแรกได้ภายในไม่กี่ปีถ้ามีวินัยและหาผลตอบแทนที่ดีให้เจอ โดยนักเก็บออมทุกคนจะวางแผนการเงินผ่านการลงทุนต่างๆ เน้นวางแผนการเงินระยะยาว มีวินัยทั้งการเก็บออมและการจับจ่ายใช้สอย