“Fintech” เรื่องใกล้ตัว
สิ่งแรกที่อยู่ในมือของทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย เมื่อตื่นนอน และก่อนนอนหลับ (บางคนถึงขั้นเล่นจนหลับ) ก็คือ “โทรศัพท์มือถือ” ยิ่งสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีความสามารถมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งดึงดูดชีวิตผู้คนให้เข้าใกล้เทคโนโลยีต่างๆ ได้มากขึ้นเท่านั้น ไม่เว้นแม้แต่แวดวงการเงิน การลงทุนที่ได้นำการสื่อสารออนไลน์มาประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจ
“Fintech”
เทคโนโลยีใหม่ด้านการเงิน ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้การทำธุรกรรมการเงินด้านต่างๆ
ง่ายที่สุด | ลดปัญหาจุกจิกลงมากที่สุด | เข้าถึงผู้ใช้ให้มากที่สุด
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ “Fintech” กำลังมาแรง และพลิกโฉมวงการการเงิน จนสร้างความสั่นสะเทือนให้กับ ‘ราชสีห์’ ของวงการ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งต้องกระโดดเข้ามาศึกษาทั้งนวัตกรรมเพื่อการขายผลิตภัณฑ์ในธนาคารเอง และวิธีรับมือกับ ‘หนู’ ของแวดวงที่ความสามารถเกินตัว อย่างบรรดา “Fintech”
ประเทศให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ไม่น้อย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าว ถึงความสำคัญของ “Fintech” ในงาน “ก้าวที่ 40 มติชน ก้าวคู่ประเทศไทย 4.0” ภายใต้หัวข้อเสวนา “ฟินเทค นวัตกรรมการเงิน เรื่องใกล้ตัวที่ต้องรู้” เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า
“สิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจต้องไม่ใช่แค่ภาคอุตสาหกรรมจริงเท่านั้น แต่ต้องพัฒนาภาคการเงินควบคู่กันไปด้วย”
เรากำลังเดินหน้าเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ต หรือ Internet of Things และการใช้ Big Data มาเปลี่ยนสังคม ยุคแห่งดิจิทัลกำลังเข้ามามีบทบาทในโลกทางการเงินอย่างรวดเร็ว โดยต้องอาศัยคนรุ่นใหม่ที่เห็นจุดอ่อนของภาคการเงินและบริการทางการเงิน นำไปคิดต่อยอดเป็นนวัตกรรมทางความคิดแล้วเกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่ออุดช่องโหว่นั้น
ขณะที่ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องให้ความสำคัญกับ “Fintech” เช่นกัน โดยเข้าไปมีส่วนร่วมว่าจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์ที่สุดและต้องป้องกันความเสี่ยง อีกทั้งในอนาคตต้องคอยให้การสนับสนุน “Fintech” เข้ามาทดสอบ พร้อมควบคุมดูแลให้เหมาะสม และปิดช่องทางต่างๆ ที่มิจฉาชีพจะใช้ในการหลอกลวงประชาชน
อ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจยังคิดว่า “Fintech” เป็นเรื่องไกลตัว WealthMeUp จึงอยากชวนให้คิดใหม่ เพราะ “Fintech” เป็นเรื่องของเงินทอง เราทุกคน ธุรกิจทุกประเภท ต่างต้องจับจ่ายใช้สอยกันด้วยสิ่งเหล่านี้ เมื่อระบบการเงินเปลี่ยน รูปแบบและตัวกลางในการใช้จ่ายเงินเปลี่ยนไป เราย่อมได้รับผลกระทบด้วยอย่างแน่นอน
ขณะที่มุมมองของภาคเอกชน นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ Beacon Venture Capital ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ชี้ให้เห็นว่า นอกเหนือ “Fintech” ในอุตสาหกรรมทางการเงินแล้ว เทคโนโลยีก็ยังไปปรากฏตัวให้เห็นใน Startup อื่นๆ ด้วยไม่ว่าจะเป็น
- Uber | ผู้ให้บริการรถแท็กซี่รายใหญ่ที่สุด ที่ไม่มีรถเป็นของตนเองแม้สักคันเดียว
- Facebook | ผู้สร้างคอนเทนต์รายใหญ่ของโลก แต่ไม่มีคอนเทนต์ใดที่เป็นของตนเอง
- Airbnb | ธุรกิจที่สร้างมูลค่าสูงที่สุดในอุตสาหกรรมห้องพัก แต่ไม่มีห้องพักของตนเองเลย
นี่เป็นเพียง 3 ตัวอย่างธุรกิจยักษ์ใหญ่ ธุรกิจยุคใหม่ที่อาศัยพลังของความคิดสร้างสรรค์จากเรื่องใกล้ตัวและเทคโนโลยีโดย “ไม่จำเป็นต้องมีทรัพยากรเป็นของตัวเอง”
ธุรกิจที่ก้าวข้ามผ่านความท้าทายด้านข้อจำกัดของทรัพยากร กำลังเป็นกระแสที่มาแรงอย่างมากในขณะนี้ และในอนาคตอาจมีธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ไม่มีสาขาสักแห่งอย่าง “N26” ธนาคารออนไลน์จากเยอรมนี มีโบรกเกอร์ซื้อขายหุ้นบน
แอพพลิเคชั่นที่ไม่มีค่าธรรมเนียมในชื่อ “Robinhood” หรือบริการการโอนเงินข้ามประเทศโดยไม่ต้องผ่านการใช้บริการเคาท์เตอร์อย่าง “Transfer wise” ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินได้อีกด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นว่าโลกกำลังก้าวไปไกล โอกาสทางธุรกิจเปิดกว้างและใกล้ตัวมากขึ้น หากเพียงแต่เห็นข้อบกพร่องของธุรกิจยุคเก่า เกิดไอเดียในการแก้ปัญหากวนใจ เริ่มต้นต่อยอดความคิดเหล่านั้นให้เป็นจริงขึ้นมา การเป็นธุรกิจใหม่ยักษ์ใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน
กด Subscribe รอเลย…