ปลดล็อกรายจ่าย ชนะวิกฤติ
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
เศรษฐกิจแบบนี้ ว่ากันว่า ต้องเกาะเก้าอี้งานประจำไว้ให้แน่น เพราะอะไรก็ไม่แน่นอน และมีแนวโน้มว่า เศรษฐกิจจะซบเซาไปอีกระยะหนึ่ง
โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัว 1.5 – 2.5% หรือต่ำสุดในรอบ 5 ปี ยิ่งมาเจอวิกฤตไวรัส COVID-19 ระบาดซ้ำ หลายสำนักประเมินว่า ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและไทยอย่างแน่นอน
ช่วงที่ผ่านมา เราก็ได้ยินข่าวหลายบริษัทในหลายธุรกิจปรับลดเวลาทำงานของพนักงาน บ้างก็ทยอยปลดพนักงานเป็นระยะๆ เพื่อลดต้นทุน หรือบางแห่งก็ปิดกิจการไปเลย
การว่างงานแบบไม่ทันตั้งตัว บางคนอาจได้รับเงินเดือนลดลง หรือบางคนเริ่มลุ้นตัวโก่งว่าเดือนหน้าจะยังมีงานให้ทำหรือเปล่า ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ผลที่ตามมาหนีไม่พ้นคือ รายได้หดหาย แต่รายได้ยังเหมือนเดิม
เมื่อเป็นแบบนี้ การเอาชนะวิกฤติ ควรเริ่มจากตัวเองด้วยการปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย อะไรลดได้ก็รีบเลย อะไรเลิกซื้อได้ก็เลิก ถ้าทำได้ รายได้ก็ลด มีเงินเหลือเก็บ เพื่อใช้กับสิ่งจำเป็นในชีวิต มาเช็กลิสต์กันว่า เราจะลดรายจ่ายอะไรได้บ้าง
แพ็กเกจมือถือ
หยิบใบแจ้งหนี้ค่ามือถือมาดูว่า ปัจจุบันใช้แพ็กเกจเท่าไหร่ต่อเดือน ได้ใช้งานคุ้มมั้ย
เพราะบางคนซื้อแพ็กเกจแพงๆ เพื่อดูหนัง เล่นเกม ถ้าเป็นแบบนี้ ควรเปลี่ยนเป็นแพ็กเกจถูกลง เช่น ใช้ 800 บาทต่อเดือน ถ้าลดเหลือ 500 บาทต่อเดือน ก็ประหยัดได้ 300 บาทต่อเดือนทันที
Wi-Fi
ยุคนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้ของบ้านทุกหลัง หรือคอนโดมิเนียมทุกห้อง คือ Wi-Fi เพื่อเสพความบันเทิง ซึ่งค่าบริการรายเดือนก็มีตั้งแต่หลักร้อยบาทถึงพันบาท ขึ้นอยู่กับความแรง แต่เมื่อรายได้เริ่มหดหาย การลดรายจ่ายส่วนนี้เป็นทางเลือกที่ดี หรือถ้าเลิกใช้ไปเลยก็จะเหลือเงินเพิ่มอีกมากถึงหลักพัน
หยุดช้อปปิ้ง
สำรวจตัวเองว่า แต่ละเดือนหมดเงินกับของฟุ่มเฟือยมากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รองเท้า หรือแก็ดเจ็ตต่างๆ ถ้ารู้ตัวว่าเป็นนักช้อปตัวยง ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้และไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง คงต้องหยุดใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
ลดกาแฟ ชานมไข่มุก บุหรี่ เหล้าเบียร์
ถามตัวเองว่าหมดเงินไปกับของ 4 อย่างนี้กี่บาทต่อเดือน เช่น ซื้อกาแฟ ชานมไข่มุก รวมกัน 2,000 บาทต่อเดือน บุหรี่และเบียร์ 3,000 บาทต่อเดือน รวมกันก็ 5,000 บาทต่อเดือน ถ้าลดของพวกนี้ลงครึ่งหนึ่งแปลว่าแต่ละเดือนจะประหยัดได้ถึง 2,500 บาท
ลดรูดบัตรเครดิต
เมื่อรูดบัตรเครดิตแล้ว ถ้าชำระหนี้แบบหมดรวดเดียวก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าจ่ายได้แค่ขั้นต่ำ ก็จะต้องเสียดอกเบี้ยสูงมาก ดังนั้น ช่วงที่ไม่มีความแน่นอนแบบนี้ วิธีลดภาระค่าใช้จ่ายลงทางหนึ่ง คือ ลดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
การเอาตัวรอดท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว รายได้เริ่มหดหาย คือ การลดค่าใช้จ่ายและใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ถ้าทำได้จะมีเงินเหลือเพียงพอใช้ในชีวิตประจำวันและฝ่าวิกฤติได้