กางกลยุทธ์จัดพอร์ตทองคำ
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
เมื่อนึกถึงการจัดพอร์ตลงทุน ส่วนใหญ่จะเน้นหุ้น กองทุนรวม ตราสารหนี้ แต่ตอนนี้เราสามารถลงทุนในทองคำผสมกับสินทรัพย์ลงทุนอื่นได้ เพื่อทำให้พอร์ตลงทุนโดยรวมบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
การลงทุนในทองคำก็มีหลายรูปแบบ ทั้งทองคำแท่ง กองทุนรวมทองคำทั้งกองทุนรวมธรรมดาและกองทุนประเภท ETF และสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) จะลงทุนทองคำแบบไหน สัดส่วนเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะลงทุนระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว ตามนี้
จัดพอร์ตพอร์ตการลงทุนระยะสั้น
1.ระยะเวลาการลงทุน 6 – 12 เดือน
2.สัดส่วนทองคำแท่ง 30%, เงินสด 70%
3.ระดับความเสี่ยงต่ำมาก
4.ผลตอบแทนที่คาดหวังประมาณ 4 – 5% ต่อปี
การลงทุนระยะสั้นสะท้อนว่า นักลงทุนยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ และไม่สามารถสูญเสียเงินต้นจากการลงทุนได้มาก เพราะว่าลงทุนในทองคำยังมีโอกาสขาดทุนในช่วงสั้นๆ อยู่ จึงเน้นถือเงินสดมากถึง 70% และเหลือเงินลงทุนในทองคำแท่งที่มีความเสี่ยงต่ำสุดในบรรดาเครื่องมือการลงทุนทองคำเพียง 30%
พอร์ตการลงทุนระยะกลาง
1.ระยะเวลาการลงทุน 1 – 5 ปี
2.สัดส่วนทองคำแท่ง 40%, กองทุนรวมทองคำ 20% และเงินสด 40%
3.ระดับความเสี่ยงปานกลาง
4.ผลตอบแทนที่คาดหวังประมาณ 10 – 12% ต่อปี
แม้ระยะหลัง การลงทุนในทองคำให้ผลตอบแทนเป็นบวกทุกปี แต่เนื่องจากทองคำเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีวัฏจักร หากลงทุนช่วงตลาดขาลงอาจต้องใช้เวลา 1 – 3 ปี เพื่อให้วัฏจักรเป็นขาขึ้น แปลว่าการลงทุนยังมีความเสี่ยงและมีโอกาสสูญเงินต้น จึงควรถือเงินสดควบคู่ในระดับสูงประมาณ 40%
เนื่องจากระยะเวลาการลงทุนค่อนข้างนาน สะท้อนได้ว่านักลงทุนยอมรับความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง จึงเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกองทุนรวมทองคำประมาณ 20% ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าทองคำแท่งเล็กน้อย
พอร์ตการลงทุนระยะยาว
1.ระยะเวลาการลงทุนมากกว่า 5 ปี
2.สัดส่วนทองคำแท่ง 50%, กองทุนรวมทองคำ 30% และ Gold Futures 20%
3.ระดับความเสี่ยงสูง
4.ผลตอบแทนที่คาดหวังประมาณ 20 – 25% ต่อปี
เนื่องจากลงทุนนานกว่า 5 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทองคำมักให้ผลตอบแทนเป็นบวก และทองคำได้รับการยอมรับว่าสามารถป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อในระยะยาวได้ด้วย ดังนั้นการลงทุนระยะยาวจึงสามารถถือครองทองคำได้เต็ม 100%
การถือยาวแบบนี้ สะท้อนว่านักลงทุนรับความเสี่ยงได้สูง จึงสามารถเพิ่ม Gold Futures เข้าไปช่วยป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลงหรือเกิดความไม่มั่นใจในการลงทุนช่วงสั้นๆ โดยการเปิดสถานะ Short ซึ่งจะมีต้นทุนในการทำธุรกรรมต่ำกว่าการขายออกไปก่อนแล้วซื้อกลับเข้ามาใหม่
ในทำนองเดียวกัน ช่วงเวลาที่เกิดความมั่นใจในการลงทุนมากๆ ก็สามารถใช้ Gold Futures เพื่อเพิ่มผลตอบแทนโดยการเปิดสถานะ Long ซึ่งจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายในการลงทุนได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ Gold Futures เป็นองค์ประกอบในการลงทุนต้องคำนึงถึงระยะเวลาของสัญญาที่ค่อนข้างจำกัดด้วย
การลงทุนทองคำก็เหมือนการลงทุนสินทรัพย์ประเภทอื่น ก่อนตัดสินใจต้องศึกษาข้อมูลและถามตัวเองก่อนว่ารับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน และพร้อมลงทุนหรือไม่