MK สุกี้ กับความสุขมวลรวม
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ไปกินสุกี้ MK เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สาขาโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
พอได้โต๊ะนั่ง พนักงานแจ้งว่าสามารถสั่งอาหารได้จากหน้าจอมอนิเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะได้เลย สั่งได้ทุกอย่าง ทั้งเป็ดย่าง อาหารทะเล หมูสไลด์ ผักสด เครื่องดื่ม รวมทั้งของหวานต่างๆ ใช้งานไม่ยาก สไลด์หน้าจอ และกดสั่งเหมือนใช้งานมือถือ
แปบเดียว ถาดอาหารที่สั่งก็มีพนักงานมาเสิร์ฟถึงที่ ข้อดีคือไม่ต้องเสียเวลาเรียกพนักงาน และความถูกต้องในการสั่งก็ดีขึ้น เพราะเราเลือกเอง สั่งเอง ยกเลิกได้เอง
เหตุการณ์นี้ทำให้นึกถึงร้านอาหารสุดล้ำในญี่ปุ่น ขนาดที่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องมีพนักงานเสิร์ฟแม้แต่คนเดียว ใช้ “หุ่นยนต์” ล้วนๆ
มองในแง่เจ้าของธุรกิจ ประหยัดต้นทุนค่าคนลงได้เยอะทีเดียว ทั้งเงินเดือน OT ประกันสังคม ค่าประกันสุขภาพ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และไม่ต้องปวดหัวเรื่องการขาด ลา มาสาย ของพนักงานอีกด้วย ประสิทธิภาพของธุรกิจก็ดีขึ้น
อีกทั้งหุ่นยนต์และระบบคอมพิวเตอร์ลงทุนใหญ่ครั้งเดียว นอกนั้นก็เป็นค่าซ่อมบำรุง และค่าอัปเดตซอฟต์แวร์ มองว่าเทรนด์ร้านอาหารในอนาคต จะไปทางนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
ผลก็คือ ในอนาคตอันใกล้คนในภาคบริการก็จะถูกจ้างงานน้อยลง อัตราการว่างงานก็จะสูงขึ้น
คำถาม คือ แล้วอะไรจะทำให้คนในภาคบริการยังเป็นที่ต้องการอยู่?
วันนั้นได้สังเกตพนักงานเสิร์ฟ ทุกคนล้วนกระตือรือล้นในการให้บริการ คนหนึ่งเป็นผู้หญิงท้องแก่ แต่ยังทำงานได้อยู่ ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นสาวมาเก็บถาดเปล่าที่วางอยู่บนโต๊ะ 3 ครั้ง ก็จะพูดว่า “ขอโทษนะคะ ขออนุญาตเก็บถาดเปล่านะคะ ขอบคุณคะ”
ส่วนคนสุดท้าย เป็นคนที่เดินมาทอนสตางค์ และกล่าวคำขอบคุณ และทิ้งท้ายว่า “ครั้งหน้าขอเชิญที่ MK อีกนะคะ”
เดินออกมาหน้าร้าน เหลือบมาเห็นป้ายที่อยู่บริเวณทางเข้า “กำไรทั้งหมดจากการดำเนินงานของภัตตาคารนี้ จะบริจาคให้โรงพยาบาลศิริราช โดยเครือภัตตาคารเอ็มเค”
(นิ่ง)…ไปสักครู่
ไม่น่าเชื่อว่า 1 ร้านอาหาร ทำให้มีคนมีงานทำหลาย 10 ชีวิต เมื่อคนมีงานทำหลาย 10 ชีวิต ก็สามารถหล่อเลี้ยงตัวเองและคนรอบตัวรวมกว่า 100 ชีวิต และยังได้มีส่วนช่วยผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชอีก 551,450 ชีวิต ในปี 2561
เมื่อย้อนกลับมานึกดู เงินค่าอาหารของเราที่จ่ายในวันนี้ นอกจากจะได้ทั้งอาหารสุขภาพ และรู้จำนวนแคลอรี่ของอาหารที่กินไป ยังอิ่มใจที่ได้ทำบุญให้คนมีงานทำและช่วยเหลือผู้ป่วย มื้อนี้จึง “คุ้ม” ซะยิ่งกว่าคุ้ม เพราะสัมผัสได้ถึง “ความสุขมวลรวม” ที่เงินหลักร้อยก็ซื้อได้