นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า หลังราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จนขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติกาลอีกครั้งที่ 2,483 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และเกิดแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาบ้าง ทำให้ราคามีการพักฐานลงมาในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ราคายังพยายามสร้างฐานที่โซน 2,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
ผลสำรวจจาก SCB EIC Consumer survey 2023 พบว่า กลุ่มที่มีการลงทุนในทองคำมากที่สุด คือ กลุ่ม Gen X คิดเป็นสัดส่วน 51% รองลงมาเป็นกลุ่ม Gen Y คิดเป็นสัดส่วน 34% อีกทั้ง กลุ่ม Gen X และ Y ยังมีสัดส่วนผู้ที่สนใจลงทุนเพิ่มเติมในทองคำสูงกว่า Gen อื่นๆ อีกด้วย สะท้อนฐานนักลงทุนกลุ่ม Gen X และ Y ที่ยังเป็นกลุ่มหลักที่ลงทุนในทองคำอย่างต่อเนื่อง
สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเหมืองทองคำทั่วโลกกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการรักษาอัตราการขยายตัวด้านการผลิตทองคำ ในขณะที่แหล่งแร่ทองคำกลายเป็นสิ่งที่หายากมากขึ้น
วายแอลจี เผยทองคำพักฐานระยะสั้นหลังพุ่งร้อนแรงต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีปรับตัวขึ้นมาแล้วเกือบ 14% ระยะยาวยังเป็นขาขึ้นชัดเจน พบปัจจัยหนุนแข็งแกร่ง ทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ยังน่ากังวล ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ การเข้าซื้อของธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงปริมาณทองคำที่เริ่มเหลือน้อย คาดทั่วโลกมีให้ขุดเพิ่มอีกเพียง 19 ปี เทียบจากปริมาณการขุดแต่ละปีที่ 3,000 ตัน
วายแอลจีเผยหลังทองคำร้อนแรงทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 2,450 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หลังนักลงทุนกังวลภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งกองทุนขนาดใหญ่เข้าซื้อทองคำปริมาณมาก ส่งผลนักลงทุนเริ่มจับตาตลาดทองคำอีกครั้ง เหตุช่วยลดความผันผวนของพอร์ต
วายแอลจีชี้ ราคาทองคำราคาผันผวนระยะสั้น หลังนักลงทุนขายทำกำไรจากการคลายความกังวลเหตุปะทะอิสราเอล-อิหร่าน ส่งผลทองคำมีจังหวะแกว่งตัวลงจนหลุดโซน 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่ภาพรวมทั้งปียังมองบวก คงเป้าหมายที่ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ภาพรวมระยะยาว 2–3 ปีเทรนด์ยังขาขึ้น แม้ไม่มีเหตุการณ์ตะวันออกกลาง แต่ธนาคารกลางทั่วโลกยังสะสมทองคำต่อเนื่อง