ดัชนีตลาดหุ้นไทย เริ่มปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา และข้ามปีมาก็ยังแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ สภาพตลาดแบบนี้แนะนำให้หาจังหวะซื้อหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำราคาขยับขึ้นไม่มากเมื่อเทียบกับทั้งตลาด หรือที่เรียกว่า หุ้น Laggard
การลงทุนสไตล์มินิมอล หรือ มีหุ้นในพอร์ตน้อยนิด แต่ทำเงินได้ตลอดเวลา น่าจะดีกว่ามีหุ้นเป็นสิบๆ ตัว แต่ไม่มีความสุข ไม่มีเวลาดูแล ที่สำคัญขาดทุนและกินต้นทุนในระยะยาว
มีนักลงทุนบางกลุ่มที่ศึกษาข้อมูลหุ้นน้องใหม่มาเป็นอย่างดี และพบว่าสามารถลงทุนในระยะยาวได้ ก็จะตัดสินใจไม่ขายหุ้นในวันแรก ซึ่งแม้ว่าเป้าหมายการลงทุนหุ้นน้องใหม่จะเปลี่ยนเป็นการลงทุนระยะยาว แต่การประเมินมูลค่าหุ้นน้องใหม่ ก็ยังมีความแตกต่างจากหุ้นที่มีการซื้อขายมานานแล้ว ทางออกของนักลงทุนก็คือต้องรู้วิธีการประเมินมูลค่าหุ้นตัวนั้น เพื่อที่จะตัดสินใจได้ว่าควรขายทำกำไรออกไปก่อนหรือไม่
‘ปรากฏการณ์ January Effect เป็นเพียงความเชื่อและการคาดเดา เพราะตั้งแต่ตลาดหุ้นไทยเริ่มซื้อขายปี 2518 จนถึงปัจจุบัน ทุกๆ เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยไม่มีความสม่ำเสมอเลย’
บริษัทที่ดีเหมาะกับการลงทุนระยะยาว ขณะที่บริษัทที่เติบโตเหมาะสำหรับการลงทุนช่วงที่บริษัทนั้นๆ กำลังเติบโต นักลงทุนควรเลือกลงทุนบริษัทที่ดีก่อน จากนั้นก็ดูราคาหุ้นว่าเหมาะสมต่อการเข้าไปลงทุนหรือไม่ และนี่คือความแตกต่างระหว่างหุ้นเติบโตกับหุ้นดี