นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ราคาทองคำเริ่มกลับมายืนเหนือ 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาแกว่งตัวจากการขายทำกำไรรับข่าวสถานการณ์ตึงเครียดหลายด้านผ่อนคลายลงทั้งการร่างข้อตกลงสันติภาพฉบับใหม่กับยูเครนกำลังมีความคืบหน้า
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าในวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา เป็นวันที่สอง ที่ทองคำถูกแรงขายทำกำไรในระยะสั้นสลับเข้ามากดดัน หลังจากที่เริ่มเกิดกระแสข่าวและความคาดหวังถึงการเจรจาทางการค้า โดยเฉพาะสหรัฐฯ-จีน ที่มีกำหนดมาเจรจากันที่สวิตเซอร์แลนด์สุดสัปดาห์นี้
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าราคาทองคำปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนทะลุเป้าหมายที่วายแอลจีให้ไว้ที่ 3,000-3,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ล่าสุดวายแอลจี จึงได้ปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 3,150-3,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็นราคาเป้าหมายทองคำแท่งไทยที่ 51,000-51,500 บาทต่อบาททองคำ
ทองคำไทยพุ่งไม่หยุด! ลองมาดูกันว่า ราคาทองคำไทยย้อนหลัง 10 ปีเป็นอย่างไรบ้าง?
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) เปิดเผยว่า ราคาทองคำในปี 2568 ร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ ตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบัน (YTD) (วันที่ 14 มี.ค. 68 เวลา 14.00 น.) ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นมาแล้วถึง 362.08 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือ +13.80% ล่าสุดเพิ่งทดสอบระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ที่ 2,993.86 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ซึ่งเข้าใกล้กับเป้าหมายที่วายแอลจีเคยให้ไว้ที่ 3,000 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ และมีเป้าหมายถัดไปที่ 3,100 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) เปิดเผยว่า ราคาทองคำล่าสุดยังสามารถเคลื่อนไหวทรงตัวในระดับสูง ใกล้กับราคาเป้าหมายที่ YLG ให้ไว้ที่ 3,000–3,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ขานรับแรงหนุนจากการอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องของดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้ หลังเห็นสัญญาณการอ่อนแอของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น ดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก ISM และตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ที่ร่วงสู่ระดับ 77,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 141,000 ตำแหน่ง จึงต้องจับตาตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด