คนทำงานจำนวนมาก “เสียเวลา” ไปกับการทำงานบางอย่างนานเกินไป เพราะ 3-5 ปีที่คุณลงมือทำสิ่งใด จะกำหนดชีวิตของคุณในอีก 10-15 ปีหลังจากนั้น…และสำหรับคนที่กำลังมองหางานใหม่ อย่าเพิ่งตัดสินใจเปลี่ยนงานถ้าไม่ได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30%
หลายองค์กรประเมินผลงานพนักงานกันเป็นรายปี แต่ก็มีบางแห่งจัดกันปีละ 2 ครั้ง เพื่อตรวจเช็คการทำงานของพนักงาน รวมไปถึงความรู้สึกนึกคิด ไม่ว่าองค์กรจะใช้การประเมินแบบใด สิ่งสำคัญคือ พนักงานต้องสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมี 5 ประโยคที่ไม่ควรเอ่ยออกมา
และแล้วก็มาถึงวันที่พวกเราเหล่า “มนุษย์เงินเดือน” ผู้ถวิลหาอิสระในชีวิต คิดและบ่นดังๆเป็นเสียงเดียวกันว่า “อยากลาออก มาทำธุรกิจ” ไม่แปลกถ้าจะคิดเช่นนี้ แต่ก่อนเดินไปยื่นซองขาว อยากชวนคิดต่อสักนิดว่า.. “ถ้าไม่ต้องลาออกจากงานประจำ จะทำธุรกิจได้ไหม? คำตอบ คือ “ได้”
ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เรา “มั่งคั่ง” ได้มีด้วยกัน 3 อย่าง คือ เงินต้น ดอกเบี้ย และระยะเวลา โดยส่วนที่ใครหลายคนให้ความสำคัญก็คือ “เงินต้น” ซึ่งคนธรรมดาสามัญอย่างเรา มีวิธีการ “ใช้แรงทำเงิน” ที่คล้ายกันคือ “การทำงาน” นิตยสาร President ของญี่ปุ่น ทำการสำรวจความแตกต่างของบรรดามนุษย์เงินเดือน ระหว่างคนที่รายได้สูง และมีรายได้น้อย…ว่าคนเหล่านี้มีอุปนิสัยที่เหมือนหรือต่างกันอย่างไร? ไปดู…นิสัย 4 ข้อของคนมี “รายได้เยอะ” กัน
‘Ayesha Curry’ เจ้าของและผู้ดำเนินรายงานสอนทำอาหาร ‘Ayesha’s Home Kitchen’ ทางช่องเคเบิล ‘Food Network’ ในสหรัฐอเมริกาแนะนำแนวคิดการทำงาน ว่า “ต้องมั่นใจในตัวเองและยอมเสี่ยงบ้าง”
ปี 2559 สัดส่วนผู้หญิงที่นั่งเก้าอี้ผู้บริหารระดับสูงในโลกธุรกิจทั่วโลกมีประมาณ 24% หรือเพิ่มขึ้นแค่ 3% จากปี 2554 แต่ท่ามกลางความท้าทายมากมาย เราก็ได้เห็นหญิงเหล็กหลายคนมีหน้าที่การงานใหญ่โตในโลกธุรกิจ อย่างเช่น Karen Peetz ประธาน Bank of New York Mellon