×

Wealth Me Up ใช้แรงทำเงิน

สร้างความยืดหยุ่น | สร้างสมดุลการทำงาน

8,676

 

คงต้องยอมรับว่าไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แม้กระทั่งรูปแบบการทำงาน มนุษย์เงินเดือนรุ่นใหม่ๆ มีความต้องการใช้ชีวิตแบบ “ยืดหยุ่น” (Workforce Flexibility) มากขึ้น โดยเน้นการสร้างสมดุลให้กับชีวิตและการทำงาน  เพราะคนยุคนี้มีความมั่นใจว่าจะสามารถจัดการทั้งเรื่องชีวิตและเรื่องงานไปพร้อมๆกันได้

 

ดังนั้น องค์กรที่ให้อิสระ  ให้ไลฟ์สไตล์การทำงานที่ยืดหยุ่นได้ มักจะดึงดูดคนทำงานยุค Millennials ให้อยากทำงานอยู่กับองค์กรนั้นนานๆ รวมถึงจูงใจให้คนภายนอกอยากเข้ามาร่วมงานด้วย

 

หลายๆ องค์กรในประเทศไทยจึงมีรูปแบบการทำงานที่เริ่มมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งเราพอจะได้เห็นกันบ้างแล้วจากรูปแบบต่างๆ ดังนี้

 

1.แต่งกายทำงานแบบลำลอง | ยืดหยุ่นไลฟ์สไตล์

วัฒนธรรมนี้เริ่มแพร่หลายในองค์กรหลายแห่งในบ้านเรา ที่อนุญาตให้แต่งชุดลำลองสบายๆ ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นการให้อิสระและความเป็นตัวเองกับพนักงาน  โดยเชื่อว่านอกจากการแต่งกายชุดลำลองจะสร้างความคล่องแคล่วในการทำงานแล้ว ยังจะช่วยสร้างความพอใจและความสุขในขณะทำงานอีกด้วย

แต่มนุษย์ทำงานทั้งหลายเองก็อย่าเพลิดเพลินกับอิสระจนลืมขอบเขตความเหมาะสมไป  เพราะการรักษาภาพลักษณ์ขององค์กรยังคงเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือต่อบุคคลภายนอกที่เรายังจำเป็นจะต้องติดต่องานด้วยอยู่ดี เหมือนวลีเด็ดคนดังอย่าง “โคโค่ ชาแนล” ที่ว่า

 

2.ทำงานนอกออฟฟิศ | ยืดหยุ่นสถานที่

หลายคนอาจทำงานที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องเข้าบริษัททุกวัน แต่สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จ โดยอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานกับองค์กร

เพราะอาจจะบ้านไกลจากที่ทำงาน ต้องเดินทางหลายต่อ การจราจรก็ติดขัด การทำงานตามสะดวกจึงตอบโจทย์คนที่อยากจะประหยัดเวลา  ประหยัดพลังงานในการเดินทาง แล้วเอาเวลาและพลังงานมาทุ่มให้กับงานแทน

จะเห็นได้จากการเติบโตของ co-working space ที่เปิดตัวอย่างมากมายเพื่อตอบรับการใช้ชีวิตทำงานของคนยุคใหม่ที่เป็นอิสระมากยิ่งขึ้น

แม้จะฟังดูน่าสนใจมากแค่ไหน แต่ต้องไม่ลืมว่า เมื่อไม่มีคนหรือสถานที่มาคอยควบคุมเรา เราเองนั่นแหละที่จะต้องยิ่งควบคุมตัวเองให้ดี ไม่เช่นนั้นจะพาลเสียงานเสียการเอาได้

 

3.เลือกช่วงเข้า-ออกงานได้ | ยืดหยุ่นเวลา  

ด้วยสภาพการจราจรที่ติดขัดโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนในบ้านเราทำให้บริษัทหลายๆ แห่งเริ่มมีนโยบายยืดหยุ่นกับเวลาเข้าออกงาน คือ ให้สามารถเข้าออกงานในแต่ละวันที่แตกต่างกันได้ ตามแต่พนักงานจะสะดวก เพียงแต่ในแต่ละวันจะต้องทำงานให้ครบตามจำนวนชั่วโมงที่กำหนดไว้

เวลาที่ยืดหยุ่นนี้ยังอาจรวมไปถึงเวลาพักทานข้าวด้วยเช่นกัน  เพราะการที่ทุกคนพากันลงมาทานข้าวตอนเที่ยงพร้อมกัน ทำให้ต้องไปต่อคิวกับคนอีกเป็นจำนวนมาก กว่าจะได้ทานข้าวก็หมดเวลาพักในหนึ่งชั่วโมงไปเสียแล้ว จึงมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อยากจะเลี่ยงช่วงเวลานี้แล้วไปพักทานข้าวในช่วงเวลาอื่นแทน

 

มีการตั้งข้อสังเกตว่า การให้อิสระและความยืดหยุ่นกับพนักงานที่มากขึ้น จะช่วยให้อัตราการขาดงานของพนักงานลดน้อยลงได้ เพราะพวกเขามีโอกาสได้บริหารจัดการเวลางาน และเวลาส่วนตัวได้อย่างสมดุลมากขึ้น  รวมถึงจำนวนผลผลิตของงานที่ได้จากพนักงานเฉลี่ยแล้วเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เพราะมีแรงจูงใจที่จะสร้างผลงานที่ดี  และอยากจะอยู่ทำงานกับบริษัทต่อไป

 

แต่ผู้ที่ได้รับโอกาสและอิสระในการทำงาน ก็ต้องไม่ลืมด้วยเช่นกันว่ายิ่งบริษัทยืดหยุ่นให้มากเท่าไหร่ “วินัยการทำงาน” ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้  หากเรารู้หน้าที่และปฏิบัติหน้าที่ของเราได้เป็นอย่างดีแล้ว นโยบายความยืดหยุ่นถึงจะส่งผลแบบ win-win ทั้งสองฝ่าย

 

#WealthMeUp

 

กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

Related Stories

amazon anti fatigue mats