×

Wealth Me Up ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ

ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ 13 มิ.ย. 6O

1,736

 

ชงใช้ ม.44 ลดภาษีสินค้าไฮโซ

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่ามีแนวคิดจะหารือกับกระทรวงการคลัง ถึงความเป็นไปได้ใช้กฎหมายมาตรา 44 แก้ปัญหาเรื่องการเก็บภาษีสินค้าท่องเที่ยวกลุ่มหรูหรา(ลักชัวรี่) ที่ปัจจุบันจัดเก็บในอัตราค่อนข้างสูง

นำร่องภาษีการจอดเรือซุปเปอร์ยอร์ช และภาษีการนำเข้าเครื่องดื่มประเภทไวน์ เพื่อช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นกลุ่มนักท่องเที่ยวไฮเอนด์ให้มาจับจ่ายในประเทศไทยได้มากขึ้น

ทั้งนี้(CMDF) ภาษีการจอดเรือซุปเปอร์ยอร์ชในปัจจุบันเก็บภาษีสูงถึง 7% ของราคาเรือที่มีราคาสูงกว่า 1,000 ล้านบาทต่อลำ จึงทำให้นักท่องเที่ยวไม่นิยมนำเรือมาจอดเทียบท่าในเมืองไทย นอกจากนี้ภาษีเครื่องดื่มประเภทไวน์ที่ปัจจุบันคิดอัตรา 20-25% หากลดลงมาเก็บในระดับ 5-10% จะเป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นการใช้จ่ายด้านการกินได้ดี

 

ครัวเรือนกทม.หนี้ท่วม 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยความเชื่อมั่นของครัวเรือนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เดือน พ.ค. 2560 ว่า ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน มาอยู่ที่ระดับ 44.4 จากความกังวลที่ลดลงต่อประเด็นเรื่องค่าใช้จ่าย (ไม่รวมหนี้สิน) และสถานการณ์ราคาสินค้า อย่างไรก็ตาม หนี้สินที่เพิ่มขึ้นยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่ออำนาจการซื้อของครัวเรือน

 

อี-คอมเมิร์ซไทยส่อหนาว ยักษ์เบอร์ 2 จีนทุ่มตลาด

บริษัท ตลาด ดอท คอม (TARAD.com) เปิดเผยว่า การเข้ามาของเจดีดอตคอม ยักษ์เบอร์ 2 อี-คอมเมิร์ซของจีนรองจากอาลีบาบา ย่อมกระทบกับผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซไทย เพราะอี-คอมเมิร์ซข้ามชาติที่มารุกตลาดไทย ช่วงแรกจะใช้วิธีเผาเงินแย่งตลาดหรือยอมขาดทุนในช่วงแรก เพื่อซื้อส่วนแบ่งตลาดให้ได้ก่อน เหมือนที่อี-คอมเมิร์ซต่างชาติหลายรายเคยทำ

 

ยักษ์ใหญ่ช่อง 7 คว้าแชมป์ กสทช.เปิดตัวเลขรายได้ทีวีดิจิทัล 22 ช่อง

กสทช. เผยรายได้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลปี 2559 รวม 13,762 ล้านบาท ช่อง 7 นำโด่งกวาดรายได้เป็นอันดับ 1 ตามด้วยเวิร์คพอยท์, ช่อง3, ช่อง8 และช่องโมโน ตามลำดับ ลุ้นปีนี้คนดูทีวีดิจิทัลคิดเป็น 80% จาก 26 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ

 

เศรษฐกิจอาเซียน+3 พ้นจุดต่ำสุด!

สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคแห่งภูมิภาคอาเซียน+3(แอมโร) เปิดเผยถึงเศรษฐกิจอาเซียน+3 (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) ในช่วง 20 ปีหลังวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 ว่า เศรษฐกิจอาเซียน+3 ผ่านจุดต่ำสุดแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา

ซึ่งในปีนี้จะเติบโต 5.2% และ 5.1% ในปีหน้า โดยเศรษฐกิจจีนที่ลดความร้อนแรงลงจะขยายตัว 6.5% ในปีนี้ และ 6.3% ในปีหน้า ส่วนเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่โตต่อเนื่องจะสนับสนุนให้เศรษฐกิจภูมิภาคโตได้ต่อเนื่อง

สำหรับจุดเปราะบางของเศรษฐกิจอาเซียน+3 คือ บางประเทศใช้นโยบายการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องยาวนานจนเหลือช่องกระตุ้นได้อีกไม่มาก ส่วนการรับมือความผันผวนของค่าเงินโลกเชื่อว่าระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่นจะทำให้รับมือได้ดีขึ้น และยังมีมาตรการริเริ่มเชียงใหม่(CMI) ซึ่งทำให้มีเบาะรองรับเงินทุนสำรองโดยสามารถกู้ยืมเงินระหว่างประเทศสมาชิกได้หากเกิดวิกฤติค่าเงิน

 

#WealthMeUp

 

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ, ไทยรัฐ, โพสต์ทูเดย์, ผู้จัดการ

ภาพ: thairath

Related Stories

amazon anti fatigue mats