ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ 26 มี.ค. 2561

เตรียมอัพเกรดพร้อมเพย์ฉลาดขึ้น

บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาความสามารถใหม่ๆ ของระบบพร้อมเพย์ โดยประกอบด้วย คิวอาร์โนติฟิเคชั่น หรือบริการแจ้งเตือนการทำธุรกรรมพร้อมเพย์ และระบบให้ผู้ใช้พร้อมเพย์ยกเลิกการจ่ายแล้วดึงเงินกลับไปได้

ทั้งนี้ ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนทดสอบในแซนด์บ็อกซ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าจะเปิดให้ใช้งานจริงภายในไตรมาส 3 ปีนี้นี้

หนุน‘ฟินเทค’ปล่อยกู้ ธปท.

บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) สามารถเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโรได้

สำหรับการแก้ไขจะเพิ่มเติมในรายละเอียด เพื่อให้ฟินเทคเข้าข่ายสถาบันการเงินตามกฎหมายฉบับนี้ รองรับกลุ่ม ฟินเทคที่ทำเรื่องการปล่อยกู้ระหว่างบุคคลกับบุคคล (เพียร์ทูเพียร์เลนดิ้ง) และการระดมทุนจากมวลชนในรูปแบบซื้อส่วนแบ่งเงินกู้ (เดป คลาวด์ฟันดิ้ง)

รีดภาษีเบนซิน-ดีเซลเพิ่ม

กรมสรรพสามิต หารือกับกระทรวงพลังงาน เพื่อหาแนวทางในขยายฐานการจัดเก็บภาษีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (ซีโอทู) ไปยังกลุ่มสินค้าที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯทำลายสิ่งแวดล้อมเพิ่ม

ทั้งนี้ เตรียมเก็บภาษีคาร์บอนฯ จากน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเบนซิน ดีเซล แก๊สโซฮอล์ ที่จำหน่ายตามสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะสรุปภายใน 1-2 เดือนนี้

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะไม่กระทบประชาชน เพราะเป็นการจัดสรรงบใหม่ โดยลดเงินที่ส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ มาเข้าเป็นภาษีก๊าซคาร์บอนแทน

แจ็คหม่าลงทุนไทย

รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วันที่ 30 มี.ค.นี้ นาง จ้าวอิ่ง หัวหน้าทีมของอาลีบาบา กรุ๊ป บริษัทอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่ของประเทศจีน และคณะ จะเข้าพบเพื่อสรุปความร่วมมือทุกด้านกับไทย

ทั้งนี้ ได้แก่ 1.การลงทุนในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา 2.การพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ 3.การโปรโมทสินค้าเกษตรของไทยบนแพลตฟอร์มของ อาลีบาบา และ 4.การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ไทยให้สอดรับกับการปฏิรูปอุตสาห กรรม 4.0

ขึ้นค่าแรงเม.ย.เพิ่มกำลังซื้อหนุนเศรษฐกิจ

กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ในรอบนี้ที่จะมีผลวันที่ 1 เม.ย. 2561 เป็นอัตราขึ้นที่ไม่มาก เพียงประมาณ 4% โดยเฉลี่ยจาก 305.4 เป็น 316 บาท/วัน มีผลกระทบต่อจีดีพีน้อยมากเพียง 0.005% เท่านั้น

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการรายใหญ่ ส่วนใหญ่จ่ายเกินกว่าค่าแรงขั้นต่ำแล้ว และกระทรวงการคลังได้มีมาตรการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยให้หักค่าแรง 1.15 เท่า ซึ่งสามารถช่วยภาระค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นได้เกือบทั้งหมด

ที่มา: โพสท์ทูเดย์, อินโฟเควส์, เดลินิวส์

ภาพ: brandbuffet.in.th