ไม่ตกเทรนด์ตลาดขาขึ้น เมื่อลงทุนผ่านกอง SET5O
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
กลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นยืนเหนือระดับ 1,700 จุดได้ โดยได้แรงหนุนจากความชัดเจนที่จะมีการเลือกตั้งในปีหน้า ซึ่งในระยะยาวจะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น
การลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่อย่างหุ้นในดัชนี SET50 จึงมีความน่าสนใจ นอกจากการลงทุนในหุ้นรายตัวโดยตรงแล้ว การลงทุนผ่านกองทุนที่ลงทุนหุ้นในดัชนี SET50 ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เรามาทำความรู้จักกับกองทุนที่มีนโยบายลงทุนตามดัชนี SET50 กัน
กองทุนดัชนี SET50 มีนโยบายลงทุนให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี SET50 โดยมักกำหนดนโยบายการลงทุนแบบเชิงรับ (Passive Fund) ผลตอบแทนของกองทุนจึงใกล้เคียงกับดัชนี SET50 ซึ่งปัจจุบันประกอบไปด้วยหุ้นขนาดใหญ่อย่างปตท. ท่าอากาศยานไทย ซีพี ออลล์ ปูนซีเมนต์ไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น
การกำหนดนโยบายของกองทุนให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี SET50 หรือนโยบายเชิงรับ มีข้อดีคือ กองทุนมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่ากองทุนที่มีนโยบายแบบเชิงรุก (Active Fund) ยกตัวอย่างเช่น กองทุนเปิดทหารไทย SET50 ปัจจุบันคิดค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากกองทุนรวม (ค่าธรรมเนียมการบริหาร ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ ค่าธรรมเนียมนายทะเบียน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ) อยู่ที่ 0.63% ต่อปี และค่าธรรมเนียมซื้อขายขาละ 0.1%
ขณะที่กองทุนทีเอ็มบี ธรรมมาภิบาลไทย ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นไทยที่มีนโยบายบริหารแบบเชิงรุก คิดค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากกองทุนรวม 1.20% ต่อปี และเก็บค่าธรรมเนียมเฉพาะขาซื้อที่ 1%
แม้ว่ากองทุน SET50 มีจุดเด่นคือ ค่าธรรมเนียมที่ต่ำ แต่โอกาสที่ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนมากกว่าดัชนี SET50 นั้นค่อนข้างยาก เพราะนโยบายของกองทุนกำหนดไว้ว่า จะต้องสร้างผลตอบแทนให้ได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี SET50
นอกจากนี้หากมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดกลางและเล็ก ผู้ลงทุนในกองทุนดัชนี SET50 ก็จะไม่ได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นของราคาหุ้นขนาดกลางและเล็กมากนัก
กองทุนดัชนี SET50 มีทั้งกองทุนหุ้นแบบปกติ กองทุน LTF และกองทุน RMF แม้นโยบายของแต่ละกองทุนจะคล้ายกัน แต่กองทุนมีการคิดค่าธรรมเนียมการจัดการและค่าธรรมเนียมซื้อขายกองทุนที่แตกต่างกันไป ผู้ลงทุนควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ควบคู่กับผลตอบแทนย้อนหลังในอดีต โดยสามารถศึกษาข้อมูลเหล่านี้ได้จากเว็บไซต์ของ morningstarthailand
ไม่ว่าจะเลือกลงทุนกองทุนหุ้นที่มีนโยบายแบบไหน การศึกษาข้อมูลของกองทุนที่จะลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ ประกอบกับการติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนได้