×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

ลงทุนอย่างไร ในตลาดกระทิง

4,910

 

ดัชนีหุ้นไทยทะลุ 1,600 จุด ไปเป็นที่เรียบร้อย เป้าหมายถัดไป 1,700 จุด บรรยากาศแบบนี้ทำให้นักลงทุนทุกคนมีความหวังว่ารอบนี้ต้องทำกำไรเข้ากระเป๋าแบบทบต้นทบดอก เพื่อชดเชยตลาดหุ้นที่หยุดนิ่งอยู่กับที่และเงียบเหงามาตลอดช่วงครึ่งแรกของปี

 

“หุ้นไทย เข้าสู่ยุคกระทิงอีกครั้ง” เป็นประโยคที่ได้ยินทั่วห้องค้า แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถสร้างผลกำไรออกไปจากตลาดหุ้น ยังมีหลายคนที่ลงทุนแล้วขาดทุน เพราะ “วางกลยุทธ์ผิดพลาด”

 

ถ้าหากเชื่อว่ากระทิงจะยังคงวิ่งบนกระดานหุ้นต่อไปอีกนาน ก็ยังไม่สายสำหรับการปรับหมากการลงทุนเพื่อกลับเข้าสู่หนทางที่ใช่ พร้อมๆ กับเริ่มสร้างผลกำไร

 

1.เน้นหุ้นเติบโต | ทำกำไรจากส่วนต่างราคา

ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา หุ้นไทยมีแนวโน้มไม่ชัดเจน (Sideway) การเน้นลงทุนหุ้นปันผล (Dividend Stock) เป็นกลยุทธ์ที่ดี เพราะนักลงทุนสามารถซื้อแล้วถือเพื่อรับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลได้

 

แต่เมื่อตลาดเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้น (ตลาดกระทิง) กลยุทธ์ที่ดีคือ เลือกลงทุนหุ้นเติบโต (Growth Stock) เพื่อเน้นทำกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้น (Capital gain) ด้วยการมองหาหุ้นที่มีความสามารถในการสร้างอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS Growth)

 

2.เน้นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก พื้นฐานดี | ขึ้นเร็วกว่าหุ้นใหญ่

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น ราคาหุ้นขนาดกลางและเล็กจะวิ่งขึ้นเร็วกว่าหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งการเลือกหุ้นขนาดกลางและเล็กเพื่อลงทุนในช่วงตลาดเป็นขาขึ้น ต้องคัดที่คุณภาพคับแก้ว นั่นคือ มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เช่น ยอดขายและกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง 3 – 5 ปี, กำไรสุทธิเป็นบวกติดต่อกัน 5 – 10 ปี,  EBITDA Margin อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน

  

3.ขายให้เป็น | ตั้งเป้าหมายการขาย

สังเกตได้ว่าช่วงตลาดหุ้นขึ้น ราคาหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นมากกว่าปรับลง และหากลงทุนหุ้นถูกตัว จะได้ผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคาหุ้น (Capital gain) อย่างน่าประทับใจ อย่างไรก็ตาม มีนักลงทุนซื้อแล้วได้กำไรแต่กลับไม่ยอมขาย เพราะต้องการกำไรมากกว่านี้

 

คงไม่มีอะไรเสียหายหากราคาหุ้นที่ซื้อปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องไปตามทิศทางตลาด แต่หากตลาดปรับลดลงอย่างรวดเร็วอาจทำให้ราคาหุ้นปรับลดลงตามด้วย จากที่ได้กำไรอาจกลายเป็นขาดทุน ดังนั้น ก่อนลงทุนทุกครั้งควรตั้งเป้าหมาย “ขาย” เสมอ เช่น หากได้กำไร 10% จะขายออกไป แล้วไปหาหุ้นตัวใหม่ลงทุน

 

4.เก็บเงินสดไว้เสมอ | เพิ่มโอกาสเมื่อหุ้นปรับฐาน

นักลงทุนอาจจะมั่นใจเต็มที่กับช่วงตลาดเป็นขาขึ้น จึงทุ่มเงินลงทุนทั้งหมดที่มีไปกับการซื้อหุ้น ซึ่งพอร์ตลงทุนจะไม่เสียหายถ้าหากตลาดปรับขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ในโลกความเป็นจริงเมื่อตลาดถึงจุดๆ หนึ่งจะปรับลดลง อาจจะปรับฐานเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แล้วปรับขึ้นต่อ

 

หากนักลงทุนทุ่มเงินทั้งหมดไปรอบแรก จะไม่มีเงินสดเพื่อซื้อหุ้นที่ดีที่ราคาปรับย่อลงมาตามตลาดหุ้นที่ปรับฐานลงมา ดังนั้น กลยุทธ์ที่ดีคือ เก็บเงินสดเอาไว้บางส่วนเพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนในรอบถัดไป

 

5.ระมัดระวังให้มาก | ติดตามข่าวสารใกล้ชิด

ข้อมูลข่าวสารในช่วงตลาดกระทิงล้วนแล้วแต่เป็นเชิงบวก เพราะทุกคนกำลังมองตลาดในแง่ดี และเมื่อไหร่ที่มีคนพูดถึงข่าวในแง่ลบหรือนักวิเคราะห์ตักเตือน มักจะไม่สบอารมณ์หรือถึงขั้นไม่สนใจกับคำตักเตือน

ตรงกันข้ามในช่วงตลาดกระทิง นักลงทุนยิ่งให้ความระมัดระวังกับการลงทุน ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพราะหากตลาดปรับลดลงอย่างรวดเร็วจะได้ปรับกลยุทธ์ทันสถานการณ์


#WealthMeUp

 

กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

Related Stories

amazon anti fatigue mats