อาชีพที่ไม่หวั่นหุ่นยนต์...ยังไงก็รอด
เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็วทำให้หลายธุรกิจนำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเข้ามาทำงานทดแทนแรงงานมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ
บางคนอาจรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ หวาดหวั่นว่าวันหนึ่งอาจถูกเลย์ออฟ หมดหนทางทำมาหากินเพราะหุ่นยนต์ก็ได้ โดยเฉพาะคนที่ทำงานเดิมๆ ภายใต้ปัจจัยแวดล้อมเดิมทุกวันก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะถูกแทนที่ด้วยซอฟต์แวร์หรือจักรกลมากกว่าคนทำงานแบบอื่น
แล้วจะมีใครอยู่รอดไม่ถูกแทนที่ด้วยจักรกล หุ่นยนต์ หรือระบบอัตโนมัติบ้าง?
หากดูจากพัฒนาการของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า อาชีพที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ต้องปรับตัว ใช้สมองขบคิดเพื่อรับมือกับสถานการณ์เฉพาะอยู่บ่อยๆ น่าจะเป็นอาชีพที่สามารถอยู่รอดได้ในยุคหุ่นยนต์บุกโลก เพราะเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำได้ และหุ่นยนต์น่าจะเลียนแบบได้ยาก
อาชีพหนึ่งที่ไม่น่าจะหายไปแน่ๆ คือ ‘บุคลากรในแวดวงสาธารณสุข’ ทั้งแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์อื่นๆ โดยบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลก McKinsey ให้ข้อมูลว่า มีภาระงานของพยาบาลไม่ถึง 30% ที่ใช้ระบบอัตโนมัติมาทำแทนได้
ดังนั้นเชื่อได้เลยว่า ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปี พยาบาลยังมีงานทำแน่ แต่อยู่ที่ว่าจะมีคนอยากทำงานนี้แค่ไหน โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐของไทยที่ทำงานหนัก ความรับผิดชอบสูง สวนทางกับผลตอบแทนที่ได้รับ และคุณภาพชีวิตส่วนตัว
อีกอาชีพที่น่าจะมีงานทำต่อไปคือ ‘ครู’ แม้ว่าเทคโนโลยีล้ำสมัยจะทำให้ใครๆ ก็หาความรู้จากคลาสออนไลน์ได้แบบสบายๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญก็เชื่อว่าไม่ว่าจะยังไงโลกก็ยังต้องการใครซักคนมาคอยชี้แนะและตอบคำถาม รวมไปถึงการให้คะแนนรายงานหรือข้อสอบอัตนัยอยู่ดี สิ่งสำคัญของการสอนก็คือการรู้ลึกรู้จริงของครูผู้สอนและความสามารถสื่อสารโต้ตอบกับผู้เรียนที่อาจเป็นเรื่องยากที่จะเอาหุ่นยนต์มาทำหน้าที่นี้แทน
บรรดาคนที่ต้องใช้ไอเดีย สมองซีกขวาทำงานเป็นหลักเพื่อสร้างสรรค์ผลงานไม่ว่าจะเป็น ‘นักเขียน กราฟฟิกดีไซเนอร์ ครีเอทีฟ’ เป็นคนอีกกลุ่มที่ยังไม่น่าจะตกงานในอนาคตอันใกล้ เพราะระบบคอมพิวเตอร์วิเคราะห์ข้อมูลที่แบบระบบได้ แต่ยังขาดความสามารถด้านจินตนาการลึกซึ้งที่จะเขียนนวนิยาย เรื่องแต่ง หรือออกแบบสิ่งต่างๆที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง
เช่นเดียวกับงาน ‘นักสังคมสงเคราะห์ ที่ปรึกษา นักกฎหมาย’ ที่ต้องฟังมาก ต้องคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล ต้องพูดคุยโต้ตอบกับคนอยู่เสมอ เพื่อให้คำแนะนำ คำปรึกษาที่เหมาะสมแก่คนที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นอาชีพที่มนุษย์ทำได้ดี ยังไม่มีหุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติแบบไหนมาแทนได้
ส่วนคนสำคัญที่ยังอยู่ยืนยงในยุคหุ่นยนต์ก็คือ ‘นักวิเคราะห์ระบบคอมพิวเตอร์’ ที่จะมาบริหารจัดการระบบอัตโนมัติเหล่านี้ อย่างในสหรัฐอเมริกาคาดว่าจะมีนักวิเคราะห์ระบบคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น 21% ในปี 2567 หรือเพิ่มขึ้นมากกว่าอาชีพอื่นๆ มาก
ไม่ว่าวันนี้คุณจะมีอาชีพอะไรในตอนนี้ นอกจากทำงานหลักให้เก่งแล้ว น่าจะลองฝึกหัดทักษะอื่นเพิ่มเติม โดยเฉพาะสิ่งที่คิดว่ามีเฉพาะมนุษย์เท่านั้นที่น่าจะทำได้ และต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับระบบอัตโนมัติอย่างมีความสุข
กด Subscribe รอเลย…