ใครบอก? ให้คุณลาออก
หากลองย้อนเวลากลับไปสัก 50 ปี
- ผู้คนยังเฝ้าหน้าจอ รอดูละครทีวีผ่านระบบอนาล็อก
- หัดร้องเพลงของ The Beetles หรือ Elvis Presley
- คุยกันผ่านทางโทรศัพท์ หรือไม่ก็เขียนจดหมายหากัน
- และ Steve Jobs พึ่งมีอายุเพียง 12 ปี!
คงจะไม่มีใครเคยคิดว่า โลกเราจะวิ่งเร็วและมาได้ไกลถึงเพียงนี้ ในยุคที่ทุกอย่างดูจะสะดวกสบาย รวดเร็ว เพียงปลายนิ้วสัมผัส
- อยากกินอะไร..ไม่ต้องไปถึงร้าน แค่สั่งผ่าน Line Man ให้มาส่ง
- อยากส่งของ..ไม่ต้องไปที่ทำการไปรษณีย์ แค่บอก Grab Bike ให้มารับ
- อยากเดินทาง..ไม่ต้องโบกแท๊กซี่ แค่กดเรียก Grab หรือ Uber ก็ส่งถึงที่หมาย
- อยากช้อปปิ้ง..ไม่ต้องไปซื้อที่ห้าง แค่สั่งจาก Lazada ของก็มาส่งตรงเวลา
- อะไรๆ มันก็ดูง่ายไปเสียหมดบนโลกออนไลน์
เมื่อโอกาสเปิดกว้าง และแล้วก็มาถึงวันที่พวกเราเหล่า “มนุษย์เงินเดือน” ผู้ถวิลหาอิสระในชีวิต คิดและบ่นดังๆเป็นเสียงเดียวกันว่า “อยากลาออก มาทำธุรกิจ” ไม่แปลกถ้าจะคิดเช่นนี้ แต่ก่อนเดินไปยื่นซองขาว อยากชวนคิดต่อสักนิดว่า..
“ถ้าไม่ต้องลาออกจากงานประจำ จะทำธุรกิจได้ไหม? คำตอบ คือ ได้”
เพราะในยุคสมัยที่เทคโนโลยีเอื้ออำนวย ใครก็เป็นเจ้าของธุรกิจต่างๆ ได้มากมายเท่าที่ต้องการ
เป็น..เจ้าของร้านขายเสื้อผ้า
โดยไม่ต้องเช่าที่เลยแม้แต่ตารางเมตรเดียว ผ่าน Instagram
เป็น..เจ้าของโรงแรม
โดยไม่ต้องกู้เงินมาซื้อที่ เพียงคุณมีห้องว่างให้เช่า ผ่าน Airbnb
เป็น..เจ้าของร้านอาหาร
โดยไม่ต้องมีหน้าร้าน เพียงทำอาหารให้อร่อยและขาย ผ่าน Facebook
เป็น..เจ้าของรายการที่มีคนตามเป็นล้าน
โดยไม่ต้องง้อสถานีโทรทัศน์ เพียงทำรายการออนไลน์ให้ปัง ผ่าน Youtube
และไอเดียอื่นๆ อีกเป็นร้อยเป็นพัน ที่อาจทำให้กลายเป็นนักธุรกิจได้ โดยไม่ต้องลาออก ถ้างานประจำที่ทำอยู่ เป็นงานที่รัก ภูมิใจ และมีความสุขที่ได้ทำงานนั้น ได้สร้างประโยชน์ให้กับองค์กร หัวหน้าเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า และสังคม จงทำงานประจำต่อไป แล้วแบ่งเวลาที่เหลือมาสร้างความฝัน พัฒนาทักษะความสามารถ และลงมือทำอย่างจริงจัง
เชื่อแน่ว่า อนาคต “เถ้าแก่น้อย” คงรออยู่ไม่ไกล
กด Subscribe รอเลย…