อยากเกษียณ ต้องเก็บเงินเท่าไหร่
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
สมมติวันนี้คุณมีอายุย่างเข้าเขตพระราม 5 หรือจะ 50 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีเงินเก็บเลย จะเริ่มเก็บวันนี้ จะไหวมั้ย?
ถ้าพูดถึงจำนวนเงินในแต่ละเดือนที่ต้องกันไปลงทุนเพื่อเตรียมตัวเกษียณ อาจทำให้หลายๆ คนช็อค บางคนถึงกับท้อแท้ แต่รู้หรือไม่ ยิ่งเริ่มลงมือเก็บออม ลงทุนเร็ว และมีวินัย ก็จะก้าวสู่อิสรภาพทางการเงินได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
ซึ่งคำว่าอิสรภาพทางการเงิน ก็คือ มีรายได้ครอบคลุมค่าใช้จ่าย โดยไม่ต้องทำงานไปตลอดชีวิต แต่กว่าจะไปถึงวันนั้น มีคำถามว่าจะต้องประหยัดหรือเก็บเงินมากเท่าไหร่
ลองดูตารางข้างล่างจะเห็นสัดส่วนการเก็บออมและเป้าหมายปีที่ตั้งใจจะเกษียณ
และเพื่อทำให้เกิดความเป็นไปได้กับคำว่าอิสรภาพทางการเงิน ขอเพิ่มเติมสมมติฐานอื่นๆ ดังนี้
- เงินที่ลงทุนไว้นั้น ได้ผลตอบแทน 5% ต่อปี
- หลังเกษียณ สามารถถอนเงินมาใช้ได้ปีละ 4% ของเงินเก็บ ส่วนที่เหลือยังคงลงทุนต่อ
ถ้าอีก 10 ปีข้างหน้าจะเกษียณจากการทำงาน พร้อมกับเงินก้อนหนึ่งในการหล่อเลี้ยงชีวิต รู้หรือไม่ ต้องเก็บเงิน 65% ของรายได้ต่อปี ติดต่อกันตลอด 10 ปี
สมมติว่า นาย ก. อายุ 50 ปี (ยังไม่มีเงินเก็บ) มีรายได้ 600,000 บาทต่อปี (50,000 บาทต่อเดือน) อีก 10 ปีข้างหน้าจะเกษียณ
แสดงว่านาย ก. ต้องกันเงินไปลงทุนปีละ 390,000 บาท หรือเดือนละ 32,500 บาท แล้วได้ผลตอบแทน 5% ต่อปี ลงทุนต่อเนื่องจนอายุ 60 ปี จะมีเงินเก็บทั้งสิ้น 5,150,646 บาท
ตัวอย่างถัดมา วันนี้นาย ข. มีรายได้ 480,000 บาท (40,000 บาทต่อเดือน) ตั้งใจว่าอีก 17 ปีข้างหน้า จะเลิกทำงาน ถ้าอยากมีอิสรภาพทางการเงิน ต้องกันเงิน 50% ของรายได้ต่อปี เอาไปลงทุนตลอด 17 ปีติดต่อกันห้ามขาดแม้แต่ปีเดียว ถ้าทำได้จะมีเงินทั้งสิ้น 6,511,772 บาท
พอเห็นสัดส่วนเงินที่ต้องกันเอาไปเก็บ หลายคนคงคิดในใจว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะในแต่ละเดือนจะมีค่าใช้จ่ายมากมาย แถมหนี้สินอีกก้อนที่ต้องเคลียร์อีกหลายปี
ดังนั้น ทางออกที่น่าสนใจเพื่อให้ก้าวสู่อิสรภาพทางการเงินได้ง่ายขึ้น ก็คือ เริ่มเก็บและลงทุนให้เร็วที่สุด เช่น อายุ 23 ปี รายได้ต่อปี 240,000 บาท (เงินเดือน 20,000 บาท) ตั้งใจะเกษียณตอนอายุ 60 ปี (37 ปีข้างหน้า) ต้องกันเงิน 20% ของรายได้ต่อปี เอาไปลงทุนตลอด 37 ปีติดต่อกัน ถ้าทำได้จะมีเงินทั้งสิ้น 5,122,058 บาท
นอกจากนี้ หากจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายเข้ามาช่วย แล้วดูว่ารายจ่ายที่เกิดขึ้นรายการไหนที่ไม่เสียเงินแล้วชีวิตไม่เป็นไร เงินที่ประหยัดได้ก็จะกลับมาเป็นเงินออม หรืออีกวิธีก็คือ หารายได้เสริมจากงานที่ตัวเองถนัด เช่น ทำขนมขาย, รับสอนภาษาอังกฤษ, รับสอนว่ายน้ำ, ขับ Grab Taxi เป็นต้น
ตัวอย่างที่นำมาเล่าเป็นวิธีหนึ่งในการวางแผนลงทุนเท่านั้น ลองแชร์ความคิดเห็นว่าแต่ละคนมีเทคนิคการลงทุนอย่างไรเพื่อช่วยให้ก้าวไปสู่อิสรภาพทางการเงิน