เทคนิคเลือกหุ้นให้โดนใจ
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ก่อนจะตัดสินใจซื้อหุ้นสักตัว ต้องดูแล้วดูอีก ไม่ว่าจะเป็นราคา จังหวะ อ่านบทวิเคราะห์ ดูเงินในกระเป๋า นอกจากนี้ต้องดูตัวเองด้วยว่ามีสไตล์การลงทุนแบบไหน เพื่อสามารถเลือกหุ้นที่ใช่ที่สุด
จนถึงวันนี้ ข้อผิดพลาดสำคัญอย่างหนึ่งของนักลงทุน คือ เมื่อซื้อไปแล้วถึงพบว่าหุ้นตัวที่ว่า ไม่ใช่สไตล์การลงทุนของตัวเองแม้แต่น้อย คำถาม คือ “ซื้อมาได้อย่างไร”
ดังนั้น ก่อนซื้อหุ้น ต้องรู้จักตัวเองก่อนว่าเป็นคนวู่วามหรือใจเย็น รู้จักรอคอยเป็นหรือเปล่า ชอบแนวทางการลงทุนแบบไหน เพราะอย่าลืมว่าหุ้นทุกตัวจะเหมาะกับนักลงทุนทุกคน แต่หุ้นแต่ละตัวจะถูกจริตและเข้ากับจังหวะชีวิตของแต่ละคน จึงต้องค้นหาแนวที่เหมาะสมกับสไตล์และความถนัดให้เจอก่อน
จากนั้นต้องทำความรู้จักหุ้นว่าหุ้นตัวนั้นเป็นหุ้นประเภทไหน โตเร็ว โตช้า หุ้นวัฏจักร หุ้นปันผล ซึ่งในตลาดหุ้นไทยมีหุ้นกว่า 800 ตัว ย่อมมีหุ้นที่หลากหลาย ตอบสนองความสนใจในการลงทุนทุกรูปแบบที่ใช่ในสไตล์ที่แต่ละคนที่ชื่นชอบ
หุ้นเติบโต
เป็นหุ้นที่กำลังโตทั้งรายได้และผลกำไร แต่ละปีจะมีการเงินไปลงทุนขยายกิจการค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ส่วนราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวหวือหวา เหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบหาโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะสั้นๆ โดยหุ้นประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง มีเป้าหมายทำกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้น (Capital gain) มีเวลาในการติดตามข้อมูลข่าวสาร และเน้นลงทุนระยะสั้น เช่น ไม่เกิน 1 ปี
หุ้นฟื้นตัว
ที่รู้จักกันดีว่า หุ้น Turnaround เป็นธุรกิจที่เคยมีผลการดำเนินย่ำแย่หรือขาดทุนมาก่อน แต่วันนี้กำลังมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน มีโอกาสสร้างรายได้และกำไรได้สูง ทำให้ราคาหุ้นเริ่มดีดตัวกลับอย่างรวดเร็ว โดยหุ้นประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง ติดตามข้อมูลข่าวสารและราคาหุ้นตัวนั้นอย่างใกล้ชิด และถนัดการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการลงทุนแบบเก็งกำไร
หุ้นวัฏจักร
เป็นธุรกิจที่มีผลกระทบกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจโดยรวม เช่น เศรษฐกิจดี ธุรกิจก็เติบโต เศรษฐกิจหดตัว ธุรกิจที่ซบเซา มักเป็นธุรกิจด้านสินค้าโภคภัณฑ์หรือการเกษตร มีรายได้เป็นฤดูกาล พูดง่ายๆ กำไรขึ้นลงตามภาวะเศรษฐกิจและราคาของสินค้านั้นๆ หมายความว่า ราคาหุ้นจะดีเมื่อรายได้เป็นขาขึ้น ราคาหุ้นหรือนักลงทุนไม่ลงทุนเมื่อรายได้หรือธุรกิจอยู่ในช่วงซบเซา โดยหุ้นประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่ติดตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวมอย่างใกล้ชิด รับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง และถนัดการลงทุนแบบเก็งกำไร
หุ้นบลูชิพ
ส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ เป็นธุรกิจที่เอ่ยชื่อแล้วรู้จักกันกันดี มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่ง โครงสร้างทางการเงินแข็งแรง สามารถอยู่รอดได้แม้ในยามวิกฤติ ดังนั้น จึงเป็นหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะตลาดโดยรวม “น้อยมาก” เช่นเดียวกันราคาหุ้นก็มีความผันผวน “น้อยมาก” โดยหุ้นประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ไม่สูงมากนัก ต้องการความมั่นคงในการลงทุน และเน้นลงทุนระยะยาว
หุ้นราคาไม่แพง
ที่รู้จักกันดีว่า Penny Stock คือหุ้นที่มีราคาไม่แพง เช่น 1 บาท 5 บาท โดยหุ้นประเภทนี้ราคาไม่เกิน 10 บาท เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยหุ้นประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่เงินลงทุนยังไม่เยอะ ชื่นชอบการลงทุนระยะสั้นๆ
หุ้นปันผล
เป็นหุ้นที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอมาโดยตลอด เช่น 10 ปี 20 ปี มีธุรกิจที่ค่อนข้างอิ่มตัว ในแต่ละปีจะไม่ค่อยใช้เงินเพื่อลงทุนขยายธุรกิจอะไรมากนัก เช่นเดียวกัน ราคาหุ้นจะขึ้นๆ ลงๆ ไม่ค่อยหวาหวืออะไรมากนัก หรือหุ้นปันผลบางตัวแต่ละวันแทบไม่ค่อยมีการซื้อขาย โดยหุ้นประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้เงินในระหว่างทาง (จากเงินปันผล) ไปเรื่อยๆ ต้องการผลตอบแทนสม่ำเสมอและมีเป้าหมายลงทุนในระยะยาว
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อหุ้นสักต้อง “รู้ตัวเอง” “รู้จักหุ้น” ให้ดีก่อน เพื่อทำให้การลงทุนมีโอกาสประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น