×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

เงิน 3 ก้อนที่มีแล้ว “รอด”

6,283

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

สำหรับวัยทำงาน โดยเฉพาะผู้ที่พึ่งเข้าสู่วัยทำงาน อายุยังน้อย ถ้าอยากเริ่มต้นวางแผนเก็บเงินหรือลงทุนอย่างเป็นขึ้นตอน ก่อนอื่นลองแบ่งเงินออกเป็น 3 ก้อน

 

เงินสำรองฉุกฉิน

 

นับตั้งแต่ต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด ฮีโร่ทางด้านการเงินที่แท้จริงก็คือ เงินสด พูดง่ายๆ หากมีเงินสดในมือย่อมทำให้มีสภาพคล่องทางการเงิน

 

แต่ก่อนอื่นต้องบอกกับตัวเองว่า “เงินสด” ไม่ใช่เป็นเงินเพื่อการลงทุน ที่ต้องได้ผลตอบแทนมากมาย แต่จะเป็นเงินก้อนที่ฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์ และเบิกถอนมาใช้ได้เมื่อมีเหตุฉุกเฉินที่ต้องใช้เงินทันที หรือวันไหนที่ต้องใช้เงินแบบด่วนจี๋ในจำนวนไม่มาก เช่น 100 บาท 500 บาท 1,000 บาท ก็เบิกมาใช้ได้ แทนที่จะรูดด้วยบัตรเครดิตหรือขอยืมคนอื่น

 

การมีเงินสด ไม่มีกฎตายตัวว่าทุกคนจะต้องมีเท่านั้นเท่านี้ แต่ทุกคนควรมีเงินสดติดตัวตลอดเวลา เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าว่าต้องมีเงินฝากในบัญชีออมทรัพย์กี่บาท ถ้าเป็นไปควรมี 3 – 6 เท่าของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เช่น ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนอยู่แถวๆ 10,000 บาท ควรมีเงินฝากไว้ในบัญชี 30,000 – 60,000 บาท

 

เงินลงทุนเพื่อเกษียณ

 

เงินก้อนนี้ ถ้าหากเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีอิสรภาพทางการเงินเร็วขึ้นเท่านั้น หมายความว่าพอเงินเดือนถูกโอนเข้าบัญชี ก้อนแรกต้องกันไปลงทุนเพื่อไว้ใช้ตอนเกษียณ โดยช่องทางลงทุนให้เรียงลำดับ ดังนี้ คือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ถ้าเป็นข้าราชการก็ กบข. ตามด้วย กองทุนรวม RMF และ SSF

มาถึงตรงนี้อาจมีคำถามว่า 2 ช่องทางนี้ ไม่สามารถสร้างให้เกิดอิสรภาพทางการเงินได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ต้องมองหาช่องทางเลือกลงทุนต่อไป

 

หลายคนอาจคิดถึงช่องทางการเงินที่มีความเสี่ยงสูงๆ เพื่อให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงตามไปด้วย

 

ในตำรานักวางแผนการจะแนะนำว่าเงินที่เก็บเอาไว้เพื่อใช้หลังเกษียณยาม ไม่สามารถนำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้ เพราะถ้าเกิดพลาดพลั้งจะเสียหาย และเมื่อเห็นเงินที่ลงทุนมีผลขาดทุนก็อยากจะเอาคืน ด้วยความโมโหเลยทุ่มเงินมาลงทุน ผลลัพธ์อาจไม่เป็นไปตามที่คาดก็ได้ ยิ่งปัจจุบันที่ตลาดการลงทุนผันผวนรุนแรงย่อมมีโอกาสหมดตัวได้

 

ดังนั้น ควรหาช่องทางการลงทุนที่มีความเสี่ยงปานกลาง และถึงแม้ว่าจะเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนที่ค่อนข้างไม่หวือหวา ผลตอบแทนไม่ได้มากมายแต่มีประโยชน์ในการลงทุนระยะยาวและเพิ่มโอกาสที่จะได้เห็นคำว่า อิสรภาพทางการเงิน นั่นคือ การลงทุนETFs ซึ่งมีความคล้ายกองทุนดัชนี (Index Fund) ที่มีนโยบายลงทุนเชิงรับ (Passive Income) เน้นสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงการเคลื่อนไหวของดัชนีหรือราคาของสินทรัพย์ที่ใช้อ้างอิง

 

ข้อดีของ ETFs

 

  • กระจายการลงทุน ETFs เป็นการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย หมายความว่าซื้อครั้งเดียวได้สินทรัพย์หลายตัวในประเภทเดียวกัน เช่น ETFs ที่อ้างอิง SET50 แปลว่าซื้อแล้วเหมือนได้หุ้นขนาดใหญ่สุดในตลาดหุ้นไทย 50 ตัวแรก หรือ ETF ที่อ้างอิง S&P500 หมายถึงเหมือนได้หุ้นในดัชนี S&P500 นอกจากนี้ยังมี ETFs ที่อ้างอิงสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ตราสารหนี้ ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

 

แปลว่า ถ้าลงทุน ETFs จะช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงิน เพราะเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย และไม่พยายามเอาชนะตลาด แต่จะพยายามเกาะผลตอบแทนไปกับสินทรัพย์ที่อ้างอิงนั้นๆ

 

  • การลงทุนแบบเน้นคุณค่า สไตล์ Passive investment คือ เป็นการลงทุนระยะยาวซื้อขายน้อยครั้ง และค่าธรรมเนียมต่ำ

 

  • ซื้อแล้วถือ เมื่อเป็นการลงทุนระยะยาว จะช่วยและหลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์เป็นใหญ่ในการตัดสินใจลงทุน

 

  • ลงทุนแต่ละครั้งใช้เงินน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นลงทุน มีเงินลงทุนแต่ละครั้งไม่มาก จึงสามารถทยอยลงทุนสม่ำเสมอ หรือเรียกว่า DCA

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจลงทุนต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียด จากนั้นก็แบ่งเงินมาลงทุนเดือนละครั้ง เช่น เดือนละ 15 – 20% ของรายได้แต่ละเดือน เช่น เงินเดือน 25,000 บาท แบ่งมาลงทุน 3,750 – 5,000 บาทต่อเดือน

 

เงินลงทุนที่เสี่ยงได้

 

หลายคนอาจคันไม้คันมือ อยากลงทุนอะไรที่หวือหวาหรือเสี่ยงสูงๆ ขอแนะนำการลงทุนหุ้น เพราะว่าเป็นสินทรัพย์ลงทุนที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายและมีข้อมูลให้ศึกษามากมาย

 

แต่การลงทุนหุ้น ก็ต้องมีชั้นเชิง นั่นคือ หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง หุ้นปันผล และควรเข้าใจข้อมูลทางด้านปัจจัยเทคนิค แปลว่าก่อนจะซื้อหุ้นตัวหนึ่งต้องรู้ลึกรู้จริง

 

อย่างไรก็ตาม หุ้นถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง จึงเป็นตัวช่วยให้พอร์ตลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนโดยรวมสูงขึ้น แต่เงินที่แบ่งมาลงทุนก็ไม่ควรเกิน 10% ของรายได้ในแต่ละเดือน

 

การที่ประสบความสำเร็จและอิสรภาพทางการเงินได้ ควรแบ่งเงินให้เป็นสัดส่วน ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องรอให้มีเงินเดือนมากถึงเริ่มต้น แต่ควรลงมือทำทันทีตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ว่าเงินเดือนน้อยหรือมาก

 

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats