3 ความเชื่อ "ต้องมี" เมื่อคิดซื้อกองทุนหุ้น
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
การลงทุนที่ดี ควรมองถึงผลตอบแทนในระยะยาว ซึ่งแน่นอนว่าระหว่างทางต้องเจออุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดา
การลงทุนที่ดีจึงควรเชื่อในสิ่งเหล่านี้ เพื่อให้อยู่กับการลงทุนได้ในระยะยาว
ผลตอบแทนระยะยาว
เงินลงทุนย่อมมีขึ้นลงตามความเสี่ยงของสิ่งที่ลงทุน ยิ่งเสี่ยงมากมูลค่ายิ่งเหวี่ยงมาก แต่หากมั่นใจว่าสิ่งที่ลงทุนมีแนวโน้มที่ดี ก็ควรถือเงินลงทุนนั้นไว้ยาวๆ
เช่น กองทุนหุ้น ที่แม้ว่ามูลค่ามีขึ้นลง แต่หากเชื่อว่าในระยะยาวเงินลงทุนจะเติบโตในอัตราที่สูง เช่น ข้อมูล ณ สิ้น ม.ค. 64 ดัชนีผลตอบแทนรวมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET TRI) เฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี ให้ผลตอบแทนสูงถึง 7.82%ต่อปี เราก็จะถือกองทุนหุ้นได้อย่างไม่หวั่นไหว แม้ระหว่างทางอาจมีบ้างที่ขาดทุนหลายสิบเปอร์เซ็นต์ก็ตาม
ไม่มีใครชนะดัชนี ได้ตลอดไป
กองทุนไหนดีกองทุนไหนเด่น เป็นคำถามฮิตตลอดกาล แต่คำตอบที่ได้ก็มักเปลี่ยนอยู่เสมอ ปีที่แล้วเขาว่ากองทุนนั้นดี พอมาปีนี้ก็บอกกองทุนนี้เด่น ดังนั้นปีต่อๆ ไป กองทุนดีกองทุนเด่นก็คงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำกัน
นั่นเพราะไม่มีนักลงทุนหรือผู้จัดการกองทุนคนไหนสามารถลงทุนได้ผลตอบแทนสูงกว่าคนอื่นเสมอไป ต้องมีชนะบ้างแพ้บ้างเป็นเรื่องธรรมดา เพียงแค่เชื่อว่ากองทุนหุ้นส่วนใหญ่จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยในระยะยาว 5-10 ปี ใกล้เคียงกับดัชนี SET TRI แค่นี้ก็เพียงพอ
ปล่อยเงินทำงาน ดีกว่าเสียเวลาทำเอง
นักลงทุนหุ้นส่วนใหญ่ มักนิยมเลือกลงทุนหุ้นรายตัว ที่มักต้องคิดวิเคราะห์เองว่าเป็นหุ้นที่ดี กิจการมีแนวโน้มเติบโต หรือเป็นอุตสาหกรรมที่ยังอยู่ในเทรนด์หรือไม่ ซึ่งการทำแบบนี้มักเสียเวลาหาข้อมูลและต้องศึกษาจนมั่นใจก่อน หรือบางคนที่เลือกหุ้นตามเพื่อนและข่าวลือก็อาจเสี่ยงที่จะเลือกหุ้นผิดจนยากที่จะกลับตัว
แต่หากปล่อยให้การเลือกหุ้นเป็นหน้าที่ของผู้จัดการกองทุน ส่วนตัวเองเพียงเลือกกองทุนที่มีนโยบายหรือสไตล์หุ้นที่เหมาะกับตนเอง ก็อาจเสียเวลาน้อยกว่าในขณะที่ผลตอบแทนที่ได้ อาจไม่ได้ต่างจากการเลือกหุ้นเองมากนัก
ที่สำคัญด้วยเงินที่เท่ากัน การลงทุนผ่านกองทุนหุ้นยังสามารถลงทุนหุ้นได้หลากหลายไม่กระจุกตัวอยู่แค่หุ้นบางบริษัท ที่หากเศรษฐกิจเกิดติดลบก็ใช่ว่ากระทบกับหุ้นทุกบริษัทในกองทุน
ใช้แรงทำเงิน แล้วปล่อยให้เงินทำงานผ่านกองทุนหุ้น ที่ผลตอบแทนมักสูงในระยะยาว ดีกว่าต้องเสียแรงมาเลือกหุ้นหรือทิ้งเงินไว้เฉยๆ ในเงินฝากที่ตอนนี้ให้ดอกเบี้ยไม่เกิน 2%ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเงินฝากบุคคลธรรมดา ณ 29 ม.ค. 64)