×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

คัดหุ้นเข้าพอร์ตสไตล์ Wellington Global Quality Growth

4,239

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

นอกเหนือจากวอร์เรน บัฟเฟตต์ มีอีกกลุ่มธุรกิจหนึ่งที่นักลงทุนสามารถเรียนรู้แล้วนำกลยุทธ์การลงทุนมาปรับใช้ให้เข้ากับสไตล์การลงทุนของตัวเอง หนึ่งในนั้นคือ Wellington Management ซึ่งเป็นบริษัทจัดการลงทุนชั้นนำของสหรัฐอเมริกา

 

หากเจาะลึกถึงกลยุทธ์การลงทุของ Wellington Management ขอยกตัวอย่างการคัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตของกองทุน Wellington Global Quality Growth ซึ่งบลจ.ไทย ได้ออกกองทุนแล้วไปลงทุนใน Wellington Global Quality Growth หลายกอง

 

สำหรับกลยุทธ์การคัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตของ กองทุน Wellington Global Quality Growth ถือว่าไม่ยากและทุกคนสามารถนำมาใช้ได้กับแนวทางการคัดเลือกหุ้นให้กับตัวเองได้ โดยมีกลยุทธ์ 4 อย่าง

 

  • คุณภาพ
  • การเติบโตที่ดี
  • อัตราผลตอบแทนของกระแสเงินสดอิสระ
  • มีความจริงใจกับผู้ถือหุ้น

 

คุณภาพ

 

ต้องเป็นธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งดูได้จากหลายปัจจัย เช่น การมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ลูกค้ามีความจงรักภักดีต่อสินค้า เป็นสินค้าที่ไม่ตกเทรนด์ได้ง่าย มีความได้เปรียบด้านต้นทุน มีสิทธิบัตรหรือสัมปทาน รวมถึงมีทีมผู้บริหารที่มีความสามารถและธรรมาภิบาลสูง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการแข่งขันที่เหนือกว่าคู่แข่งและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว จึงมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

 

วิธีการดูหลัก ๆ ได้แก่ บริษัทมีรายรับเป็นเงินสด (Cash Flow) มีเงินทุนหมุนเวียนสูง ขยายธุรกิจได้โดยใช้เงินลงทุนน้อย มีแผนขยายธุรกิจที่ชัดเจนและไม่ฟุ่มเฟือย เช่น กระแสเงินสดจากการดำเนินงานมากกว่าอัตรากำไรสุทธิ มีวงจรเงินสดน้อย (ยิ่งน้อยยิ่งดี) และน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม และรายจ่ายลงทุนต้องต่ำกว่ากระแสเงินสด และกำไรต่อหุ้นอย่างสม่ำเสมอ

 

การเติบโตที่ดี

 

สังเกตได้ว่าแม้บางธุรกิจจะประกาศผลการดำเนินงานตัวเลขกำไรแต่ขาดสภาพคล่อง เนื่องจากงบกำไรขาดทุนมีการบันทึกตามเกณฑ์เงินค้าง ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ไม่ใช่เงินสดรับจ่ายจริง จึงไม่รู้ว่ามีเงินสดในมือมากน้อยแค่ไหน ดังนั้น ถ้าจะดูว่าธุรกิจมีสภาพคล่องดีแค่ไหนให้ดูที่งบกระแสเงินสด โดยเฉพาะกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน หมายถึง กระแสเงินสดที่เกิดจากธุรกิจที่ก่อให้เกิดรายได้และค่าใช้จ่าย เริ่มจากนำเงินไปซื้อวัตถุดิบมาผลิต จากนั้นนำสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้วไปขายและรับเงินค่าขายสินค้า

 

ดังนั้น กระแสเงินสดจากการดำเนินงานต้องเป็นบวก หมายความว่า ขายของแล้วได้เงินสดเข้ามาหรืออีกนัยหนึ่ง คือ มีสภาพคล่อง ถ้าจะนำไปขยายธุรกิจ ลงทุนต่อ จ่ายดอกเบี้ย หรือจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นก็นำไปใช้ได้ทันที

 

ตรงกันข้าม หากธุรกิจมีกระแสเงินสดติดลบ คาดเดาได้ว่าขาดสภาพคล่อง ถ้าคิดจะขยายธุรกิจคงติด ๆ ขัด ๆ และแน่นอนอาจประกาศงดจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น

 

อัตราผลตอบแทนของกระแสเงินสดอิสร

 

บริษัทโดยทั่วไปจะต้องมีอัตราผลตอบแทนของกระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow Yield) ที่แข็งแกร่ง หมายความว่า สามารถสร้างยอดขายที่ทำให้เกิดเงินสดในธนาคารและไม่พึ่งพาสินทรัพย์ในงบดุลอื่น ๆ เช่น สินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ จากการมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งหรือการชำระเงินที่เลื่อนกำหนดการจ่ายออกไป ซึ่งอาจทำให้เกิดความผันผวนในการบันทึกกระแสเงินสด และโดยทั่วไปผลตอบแทนกระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow Yield) ควรอยู่ในระดับสูง (ยิ่งสูงยิ่งดี) เช่น 10% หรือ 15% เพราะหมายถึงการมีกระแสเงินสดเพียงพอนำไปดำเนินธุรกิจ จ่ายหนี้ หรือจ่ายปันผล

 

มีความจริงใจกับผู้ถือหุ้น

 

ดูว่าบริษัทนั้น ๆ ควรมีประวัติที่ดีในการเพิ่มการจ่ายเงินปันผล เพราะเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งและสามารถลดความเสี่ยงจากการลงทุนในระยะยาว นั่นคือ ต้องเป็นหุ้นผลตอบแทน (Capital Return) หมายความว่า ธุรกิจที่ดีต้องมีความจริงใจกับผู้ถือหุ้น นั่นคือ มีกำไรแล้วต้องแบ่งปันให้ผู้ถือหุ้นด้วยการจ่ายเงินปันผล ที่สำคัญควรจ่ายอย่างสม่ำเสมอด้วย

 

ปัจจุบัน บลจ.ไทย ออกกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในกองแม่ของ Wellington Management มีหลายกองทุน เช่น บลจ.ทหารไทย, บลจ.ธนชาต, บลจ.บัวหลวง, บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) และ บลจ.ทิสโก้  เป็นต้น

 

 

 

#WealthMeUp

 

Related Stories

amazon anti fatigue mats