คนหนีจาก “ฮ่องกง” 2 ปี กว่า 1 แสนคน…ไปไหน?
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
กว่า 2 ปีแล้วที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 และปัญหาการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง บั่นทอนคุณภาพชีวิตผู้คนจนทำให้เกิดการย้ายประเทศครั้งใหญ่ ซึ่งจะนำสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่าในอนาคต นั่นคือปัญหาสมองไหลของระดับหัวกระทิ
“ทุกคนมีสิทธิที่จะเข้าและออกจากฮ่องกงได้” นี่คือสิ่งที่ Carrie Lam ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงกล่าวไว้ และเธอยังไม่ได้สั่งการเพื่อแก้ไขเรื่องนี้ทันที เพียงแต่ระบุว่ากฎระเบียบต่างๆ ที่ออกมาก็เพื่อรักษาสมดุลทั้งความปลอดภัยด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจของชาติ ส่วนการแสดงออกทางเสรีภาพ ก็ควรต้องเป็นไปตามกฎหมาย
หากย้อนดูตัวเลขประชากรของฮ่องกงตลอด 60 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราการเติบโตในทุกๆ ปี โดยเพิ่มจาก 3.2 ล้านคนในปี 1961 เป็น 7.5 ล้านคนในปี 2019 และหากดูเฉพาะปี 2015 – 2019 มีผู้ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ราว 53,000 คนต่อปี แต่ในช่วงแค่ 2 สัปดาห์ของเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา กลับพบว่ามีคนย้ายออกไปเป็นจำนวนที่เท่ากัน และ 2 ปีที่ผ่านมา มีคนย้ายออกไปจากฮ่องกงแล้วกว่า 116,000 คน (93,000 คนในปี 2020 และ 23,000 คนในปี 2021)
สำหรับประเทศที่ชาวฮ่องกงนิยมย้ายไปอยู่ใหม่มากที่สุดคือ “สิงคโปร์” โดย Kay Kutt CEO ของบริษัท Silk Relo ระบุว่าปัจจัยที่ดึงดูดให้ย้ายบริษัทไปสิงคโปร์ คือ ความง่ายในการทำธุรกิจ ผู้คนเป็นมิตร สิทธิประโยชน์ทางภาษี และการเปิดประเทศ
ด้าน Krystle Edwards ผู้ที่อาศัยในฮ่องกงมากว่า 12 ปี ระบุว่าเธอและสามีกำลังตัดสินใจย้ายออกในเดือนก.ย.นี้ หากประเมินแล้วว่าสถานการณ์ยังเหมือนเดิมในปีหน้า และเธอยังสังเกตว่าก่อนหน้านี้หลายครอบครัวในฮ่องกงเดินทางไปพักผ่อนต่างประเทศนานขึ้นถึง 3 – 4 เดือน และบางครอบครัวก็ส่งลูกเข้าโรงเรียนที่นั่น และมีแผนจะกลับมาฮ่องกงอีกครั้งในเดือนส.ค.หรือ ก.ย.
นอกจากสิงคโปร์แล้ว สหราชอาณาจักร แคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ประเทศไทย รวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นกลุ่มประเทศที่ชาวฮ่องกงนิยมย้ายไปอยู่ในช่วงที่ผ่านมา
ที่มา: https://www.cnbc.com/2022/05/27/people-are-leaving-hong-kong-and-here-is-where-they-are-going.html
