×

Wealth Me Up ใช้แรงทำเงิน

“กฎ 3O วัน” ช้อปน้อยลง…เงินเก็บเพิ่มขึ้น

2,402

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

การช้อปปิงสมัยนี้สะดวกสบายอย่างมาก แค่มีสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว อยากซื้ออะไร จากที่ไหนของโลก แค่ไม่กี่คลิก รอไม่กี่วันก็ได้ของแล้ว และรู้ตัวอีกทีบิลบัตรเครดิตก็ยาวเหยียด เงินในบัญชีหดหาย แล้วเราจะเปลี่ยนนิสัยการซื้อไวจ่ายไวได้อย่างไรบ้าง?

 

อยากให้ทุกคนลองอดทนสัก 1 เดือน เพื่อถามใจตัวเองว่า สิ่งที่อยากซื้อ เราอยากได้มันจริงๆ หรือเปล่า? มันเป็นของ “จำเป็น” กับชีวิต หรือแค่ของที่เราอยาก “มี” กันแน่

 

อย่างที่รู้กันว่า ตอนนี้เทคโนโลยีพัฒนาอย่างมาก โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ต่างๆ มีโฆษณาขายของขึ้นเป็นประจำ แค่เราพูดคุยเรื่องของอะไรบางอย่าง หรือลองเข้าไปค้นหาข้อมูลสินค้าบางอย่างในอินเทอร์เน็ต ก็จะมีโฆษณาสินค้านั้นๆ ขึ้นมาบนหน้าจอของเราเต็มไปหมด  ยิ่งเห็นเยอะ ก็ยิ่งอยากได้

 

วันนี้อยากให้ลองเปลี่ยนนิสัยนักช้อปของเราสักนิดด้วย “กฎ 30 วัน” ที่หากทำได้ รับรองว่า ค่าใช้จ่ายที่ลดลงอาจมากเลยทีเดียว

 

Capture รูปสินค้า

 

ห้ามใจไว้ก่อน!! ถ้าอยากดูราคาเปรียบเทียบและรูปแบบสินค้าก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าอันไหนโดนใจ และคิดว่าอยากได้จริงๆ อยากให้ยั้งใจไว้ก่อน แทนที่จะคลิกซื้อทันที ให้ใจเย็นและเปลี่ยนมา capture หน้าจอรูปสินค้าและเก็บไว้ก่อน

 

สร้างอัลบั้มรูปเก็บไว้

 

จากนั้นสร้างโฟลเดอร์หรืออัลบั้มเก็บรูปไว้ในสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ จะเก็บรูปไว้มากแค่ไหนก็ได้ และจดบันทึกไว้ว่าสินค้าตัวนี้เรามีความรู้สึกอยากซื้อตั้งแต่วันที่เท่าไหร่และจากนั้นก็รอเวลา 30 วัน เพื่อตัดสินใจว่า ยังอยากได้ของนั้นอยู่อีกหรือเปล่า

 

“เก็บเงิน” = สินค้าที่ซื้อ

 

ช่วงเวลา 30 วันแห่งการวัดใจ ก็อย่าปล่อยให้เสียเวลาไปเปล่าๆ หันมาออมเงินเท่ากับราคาของสินค้าที่เราคิดว่าอยากซื้อ เช่น สินค้าราคา 3,000 บาท ต้องออมเงินวันละ 100 บาท แต่ถ้าแพงกว่านั้น ก็อาจเลือกออมในจำนวนที่คิดว่าไหวในแต่ละวัน ส่วนที่เหลือก็คงต้องลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นมาโปะ หรือหาวิธีออมเงินเพิ่มเติมในภายหลัง

 

ครบ 30 วัน ตัดสินใจ “ซื้อ-ไม่ซื้อ”

 

ถ้าครบ 30 วันแล้ว ก็ได้เวลาเปิดดูรูปสินค้าในอัลบั้มมาเช็กใจตัวเองอีกครั้ง ถ้าสรุปกับตัวเองได้ว่า เป็นของจำเป็นกับชีวิตจริงๆ ต้องซื้อ อย่างน้อยเราก็มีเงินออมไว้ซื้อของแล้ว แต่ถ้ายังไม่พอ ก็ขยายเวลาออมต่อไปอีก ก่อนจะซื้อจริงๆ แต่ถ้าครบกำหนดแล้วรู้สึกว่า ไม่ได้อยากซื้อแล้ว และถ้าในช่วง 30 วัน เราออมเงินไปด้วย ก็เท่ากับว่า เรามีเงินออมเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก ของที่ไม่อยากได้ก็ไม่ได้ซื้อ แถมมีเงินเก็บเพิ่มขึ้น

 

เชื่อว่า “กฎ 30 วัน” จะทำให้ประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากขึ้น เราจะซื้อแต่ของที่จำเป็นจริงๆ และทำให้มีเงินเก็บเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

 

#WealthMeUp

 

Related Stories

amazon anti fatigue mats