×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

สรุปงานสัมมนา เปิดมุมมองวิเคราะห์การเงินและการลงทุนครึ่งหลังของปี 2565 “ถึงเวลาหรือยังที่จะลงทุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง”

1,871

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

สรุปมาให้แล้วกับมุมมองการลงทุนในยุคดอกเบี้ยขาขึ้น เงินเฟ้อพุ่งสูง เศรษฐกิจก็เสี่ยงจะถดถอย…จะปรับพอร์ตลงทุนยังไงดี?

 

หุ้นเติบโตยังไหวหรือเปล่า… หรือจะโยกเงินไปลงทุนตราสารหนี้ดี?

ตอนนี้ได้จังหวะซื้อหุ้นจีนแล้วหรือยัง?

 

จากงานสัมมนาพิเศษสำหรับลูกค้า KRUNGSRI EXCLUSIVE ที่มีการลงทุนมากกว่า 5 ล้านบาท

มาค้นหาคำตอบกับผู้เชี่ยวชาญจากไทยและระดับโลกกัน…

 

 

Will China turn around?

ตลาดหุ้นจีนฟื้นตัว?

 

โดย Vivien Ng, UBS Asset Management (Singapore) Ltd.

 

  • สถานการณ์ของจีนในปัจจุบัน

    • สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ปัจจุบันยอดผู้ป่วย COVID-19 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 แต่ยังใช้นโยบาย Zero COVID โดยล็อกดาวน์บางพื้นที่ที่มีการระบาดเท่านั้น ทำให้ผลกระทบของการล็อกดาวน์เมืองที่มีผลต่อเศรษฐกิจลดลงเหลือเพียง 5% ของ GDP ประเทศ
    • การส่งออกของจีนยังดี อุตสาหกรรมการผลิตกลับมาเดินเครื่องผลิต ปัญหา Supply Chain คลี่คลายลง ซึ่งส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
    • เสถียรภาพทางเศรษฐกิจคือเป้าหมายสำคัญในระยะสั้นและระยะยาว และอาจเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
    • Sentiment ของนักลงทุนโลกเริ่มกลับมาเป็นบวก นักลงทุนกลับมาลงทุนในตลาด A-Share มากขึ้น

 

  • เป้าหมายของจีนในระยะยาว

    • Security ความมั่นคง ความปลอดภัยของประเทศ ต้องมีเทคโนโลยีด้านการผลิตเป็นของตัวเอง
    • Financial Stability เสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
    • Common Prosperity ลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
    • Environment คำนึงถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จีนมียอดรถยนต์ EV เพิ่มขึ้นมาก
    • Dual Circulation ใช้การบริโภคภายในประเทศและการส่งออกผลักดันให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพในระยะยาว
    • Demographics จีนกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงต้องทำให้ภาคการผลิตใช้แรงงานน้อยลง แต่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น

 

  • แนวโน้มเศรษฐกิจจีน

 

    • จีนตั้งเป้า GDP ปี 2022 ขยายตัวที่ระดับ 5% ดังนั้นจะเห็นการใช้นโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
    • ผ่อนคลายกฎระเบียบควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อกระตุ้นยอดขาย
    • ใช้นโยบายการคลัง มีการจัดสรรงบประมาณลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ออกมาตรการอุดหนุนให้คนใช้จ่ายซื้อสินค้า
    • ใช้นโยบายการเงิน ส่งเสริมการปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์
    • ใช้มาตรการ Zero COVID ที่เน้นควบคุมเฉพาะพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดเท่านั้น เพื่อลดผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจ

 

  • ปัจจุบันอนาคตตลาดหุ้นจีน

 

    • Valuation ในปัจจุบันของตลาดหุ้นจีนอยู่ในระดับที่ถูกมากและน่าสนใจเมื่อเทียบกับปี 2016
    • ปัจจัยที่จะขับเคลื่อนตลาดหุ้นในระยะยาว ได้แก่ การบริโภคสินค้าที่คนจีนเชื่อว่าคุ้มค่าเงิน มีคุณค่าทางจิตใจ อุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของเมือง นวัตกรรมเทคโนโลยี อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาด ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประชากรสูงวัย

 

  • กลยุทธ์คัดเลือกหุ้นจีนของกองทุน UBS China A Opportunity

 

    • โฟกัสกิจการที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของจีน
    • มุ่งเน้นอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์ที่ตอบโจทย์การเติบโตของเศรษฐกิจระยะยาวของจีน โดยคัดกรองจากปัจจัยพื้นฐาน และการวิเคราะห์เชิงลึก เพื่อเฟ้นหากิจการที่มีโอกาสเป็นผู้ชนะในอุตสาหกรรมเป้าหมาย
    • กองทุน Outperform มาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2015 แต่ในปี 2021 Underperform เพราะจีนจัดระเบียบอุตสาหกรรมในประเทศ
    • ณ สิ้นเดือน พ.ค. 2022 กองทุนยังให้ความสำคัญกับหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มสุขภาพ กลุ่มธุรกิจการเงิน แต่ลดน้ำหนักการลงทุนกลุ่มโรงเรียนกวดวิชา

 

 

Can growth stocks perform during FED hike cycle?

ยุคดอกเบี้ยขาขึ้น หุ้นเติบโตจะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้หรือไม่?

 

โดย Stewart Hogg, Client Service Director, Baillie Gifford

 

  • Growth Stock ยังน่าลงทุนอยู่หรือไม่?

 

    • วัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยไม่ได้ทำให้หุ้นเติบโต (Growth Stock) หมดคุณค่า
    • ในช่วงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปี 2015-2019 ที่ปรับจากระดับ 0% มาอยู่ที่ 25% ผลตอบแทนของหุ้นเติบโต Outperform หรือเอาชนะ Benchmark ได้ 11% ต่อปี
    • ปัจจุบัน ราคาหุ้นทั่วโลกในทุกกลุ่มรวมทั้งหุ้นเติบโตปรับลดลง เนื่องจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นจากปัจจัยความกังวลต่างๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อสูง สงครามรัสเซีย-ยูเครน และความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย
    • ต้องเฟ้นหาหุ้นรายตัวที่เป็นผู้ชนะในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่สามารถเติบโตได้ในระยะยาว ต้องเป็นกิจการที่มีการเปลี่ยนแปลง (Transform) เป็นกิจการที่ผลักดันการ Transform และเป็นส่วนหนึ่งของการ Transform นั้นในระยะยาว

 

  • กลยุทธ์การลงทุนแบบ Long Term Global Growth

 

    • เฟ้นหากิจการจำนวนหนึ่งที่เติบโตได้ดีมากๆในระยะยาว มองหาหุ้นเติบโตที่จะชนะตลาดในช่วงเวลา 5-10 ปี
    • รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกระดับโลกจากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญในหลายวงการ
    • มีมุมมองเรื่องผลตอบแทนในแง่ดี และมอง Upside เสมอ หากตลาดหุ้นปรับลดลงมาก ตลาดหุ้นก็จะฟื้นตัวแรงมากเช่นกัน
    • ความผันผวนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการลงทุนระยะสั้น แต่หากลงทุนตามกลยุทธ์ Long Term Global Growth ยาวนานเพียงพอ จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ชนะตลาดได้และมีผลตอบแทนที่เป็นบวก
    • ไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร แต่หากลงทุนอย่างต่อเนื่อง และมองหากิจการที่เป็นผู้ชนะในแต่ละอุตสาหกรรมในระยะยาวได้จริง ก็จะได้รับผลตอบแทนที่ดี
    • ตอนนี้ ราคาของหุ้นที่ปรับฐานลงมาไม่ได้สอดคล้องกับพื้นฐานของกิจการ แต่ปรับลดลงเพราะ Sentiment ของตลาด หลายกิจการยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ดังนั้นการลงทุนจึงเน้นการมองในระยะยาว หากิจการที่เติบโตพร้อมกับ Transformational Changes หรือการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

 

  • การเติบโตของผลการดำเนินงานเป็นตัวชี้วัดทิศทางราคาหุ้น

 

ข้อมูลในปี 1992-2021 แสดงให้เห็นว่าการเติบโตอย่างรวดเร็วของผลการดำเนินงานมีผลอย่างมากต่อผลตอบแทนจากการลงทุน ดังนั้น จึงพยายามมองหากิจการที่มีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะจะทำให้ราคาหุ้นมีการเติบโตเร็ว และให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นที่กำไรไม่มีการเติบโตหรือเติบโตช้า

 

  • หุ้นเติบโตจากการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ (Transformations)

 

    • บริษัทที่คิดค้นนวัตกรรมเพื่อรักษาโรคต่างๆ หรือป้องกันไม่ให้คนเป็นโรค เช่น โรคทางเดินหายใจ มาลาเรีย และมะเร็ง จะมีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นธุรกิจที่เติบโต
    • บริษัทที่สร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีตอบโจทย์การลดการปล่อยคาร์บอนจะเป็นบริษัทที่มีการเติบโตสูง
    • เศรษฐกิจโลกเสมือนจริง (Virtual Economy) จะใหญ่กว่าเศรษฐกิจจริง (Real Economy) กิจการที่มีศักยภาพด้านนี้เป็นกิจการที่น่าสนใจ

 

  • ปัจจุบันคือโอกาสเฟ้นหาหุ้นเติบโตระยะยาว

 

    • ความผันผวนของตลาดทำให้เกิดความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างราคาหุ้นและพื้นฐานของกิจการ ตอนนี้เป็นโอกาสสำคัญที่จะเฟ้นหาหุ้นเติบโตในระยะยาว
    • การเปลี่ยนแปลงต่างๆ เป็นสิ่งที่หยุดยั้งไม่ได้ เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สร้างโอกาสการลงทุน ราคาหุ้นที่ลดลงมาก สามารถทำกำไรจาก Upside มหาศาลได้

 

 

The challenges of managing bond funds in rising-rate environment

ความท้าทายของการบริหารกองทุนตราสารหนี้ ยุคดอกเบี้ยขาขึ้น

 

โดย Gordon Harding, Vice President, Fixed Income Strategist, PIMCO

 

  • ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค

 

    • เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว และเติบโตช้าต่อไปประมาณ 12-18 เดือน
    • อัตราเงินเฟ้อสูงเกินไปและยืดเยื้อกว่าที่คาดการณ์ไว้ การเติบโตของเศรษฐกิจต่ำเกินไป
    • ธนาคารกลางเน้นจัดการเงินเฟ้อมากกว่ากระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ

 

  • ผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้

 

    • Bond Yield สหรัฐฯ ปรับขึ้นมามากแล้ว ดังนั้นมีโอกาสที่ Bond Yield จะปรับลงมากกว่าจะปรับสูงขึ้น
    • จากข้อมูลในอดีต ทุกครั้งที่ Bond Yield พุ่งสู่ระดับสูงสุด ตลาดพันธบัตรจะสร้างผลตอบแทนที่แข็งแกร่งเสมอ แต่ครั้งนี้อาจไม่เหมือนในอดีต โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ
    • ตอนนี้ Valuation หรือมูลค่าของตราสารหนี้อยู่ในระดับน่าลงทุน และ Bond Yield สูงขึ้น ทำให้มีโอกาสเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี เช่น ปัจจุบัน Corporate Bond มี Yield เริ่มต้นดีที่สุดหากนับตั้งแต่ปี 2019
    • การลงทุนในตราสารหนี้ในจังหวะที่มี Yield เริ่มต้นสูง จะมีโอกาสทำให้ภาพรวมผลตอบแทนของการลงทุนเป็นบวก

 

  • กลยุทธ์การลงทุนของ PIMCO GIS Income Fund

 

    • Flexibility มีการปรับพอร์ตลงทุนแบบยืดหยุ่นตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
    • Diversify มีการกระจายความเสี่ยงการลงทุนในตราสารหนี้หลายประเภทและในหลายภูมิภาค เช่น สินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ (สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ที่ออกโดยภาครัฐ และหุ้นกู้ภาคเอกชนของบริษัทใหญ่) และสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง (ตราสารหนี้ของประเทศตลาดเกิดใหม่)
    • พยายามรักษาเงินต้นให้ได้มากที่สุด
    • ลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทน (Yield) สูงอย่างสม่ำเสมอ จากบริษัทที่มีการเติบโตดีในระยะยาว
    • ปรับลดอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ในพอร์ตลงทุนตามสถานการณ์ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า
    • ติดตามสถานการณ์ของตลาด เพื่อหาจังหวะการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้น

 

  • ผลตอบแทนของกองทุนในช่วงที่ผ่านมา

 

    • ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน กองทุนสามารถเอาชนะ Benchmark ได้ตลอด ยกเว้นปี 2020
    • ปี 2021 มีการปรับอายุเฉลี่ยตราสารหนี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม สอดคล้องกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
    • การปรับพอร์ตการลงทุนแบบยืดหยุ่นช่วยให้กองทุนสามารถดีดตัวกลับมาเติบโตมีผลตอบแทนชนะ Benchmark เสมอหลังวิกฤตครั้งใหญ่

 

  • ปรัชญาการลงทุน

 

    • มองหาสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนสม่ำเสมอ
    • มองหาสินทรัพย์ในตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกและมีการลงทุนแบบยืดหยุ่นที่สอดคล้องกับแนวคิดการลงทุนหลักของกองทุน
    • ในช่วงที่มีความเสี่ยงขาลง เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูงที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อช่วยกระจายความเสี่ยง

 

 

Is it good time to buy risky assets?

นี่คือจังหวะดีในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง?

 

โดยคุณวิน พรหมแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

 

  • มุมมองต่อเงินเฟ้อและราคาน้ำมัน

 

    • หลังจากนี้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันจะลดลง ทำให้ราคาน้ำมันลดลงได้บ้าง ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับลดลงได้ ดังนั้น Fed น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่แรงเกินไป
    • ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในครั้งนี้ มีผลกระทบกับเศรษฐกิจยุโรปมากกว่าสหรัฐฯ 2 เท่า

 

  • มุมมองต่ออัตราดอกเบี้ย

 

    • สหรัฐฯ – มีโอกาสที่ Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วในปีนี้ แต่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจแย่ลง
    • ยุโรป – ECB ส่งสัญญาณจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
    • Krungsri AM มองว่า ตลาดสะท้อนข่าว (Price in) ปัญหาเงินเฟ้อและการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางไปมากแล้ว เมื่อเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณชะลอตัวลง จึงมีโอกาสที่ธนาคารกลางจะไม่เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเท่าที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกกับตลาดตราสารหนี้

 

  • มุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจ

 

    • เศรษฐกิจโลก : คาดการณ์เศรษฐกิจทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ ยุโรป จีน ญี่ปุ่น เติบโตช้าลงจากที่ประเมินไว้ในปีก่อน ส่วนเงินเฟ้อคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นกว่าประมาณการเดิม
    • เศรษฐกิจสหรัฐฯ : ปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อขึ้นมาสูงมากในรอบหลายปีมาจากทุกส่วน เช่น ราคาพลังงาน ภาคบริการ อาหาร ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้างแย่ ช่วงนี้จึงเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ต้องลุ้นว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed จะทำให้เงินเฟ้อลดลงได้หรือไม่
    • เศรษฐกิจยุโรป : เศรษฐกิจเติบโตช้าลง เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้สูงขึ้น ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลต่างๆ โดยเฉพาะประเทศกลุ่ม PIGS คือ โปรตุเกส อิตาลี กรีซ และสเปน ที่เคยมีปัญหาเรื่องความสามารถในการชำระหนี้
    • เศรษฐกิจไทย : Krungsri Research คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้โต 2.8% โดยไตรมาสที่ 3 จะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตได้สูงที่สุด 3.9% ส่วนแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจจะมาจากการบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น ขณะที่การส่งออกแผ่วลง

 

  • ปัจจัยที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง

 

    • ปัจจัยลบ ได้แก่ วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน จีนล็อกดาวน์ อัตราเงินเฟ้อเร่งตัว ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นที่นำโดยสหรัฐฯ
    • ปัจจัยบวก ได้แก่ การเปิดประเทศของไทยและอาเซียน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
    • ปัจจัยที่อาจเป็นบวกหรือลบได้ ได้แก่ ความไม่แน่นอนทางการเมือง

 

  • ทิศทางค่าเงิน

 

    • ค่าเงินบาทอ่อนค่า เป็นผลจาก Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะทำให้เงินไหลเข้าสหรัฐฯ และเงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ ทำให้เงินอ่อนค่ากันถ้วนหน้า โดยเวียดนามเงินอ่อนค่าใกล้เคียงไทย ส่วนประเทศที่ค่าเงินอ่อนค่าหนักมากคือ ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้
    • ช่วงที่ผ่านมาไทยมีเงินไหลเข้าตลาดหุ้น ส่วนตลาดตราสารหนี้ก็มีเงินไหลเข้ามาบ้าง ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าถ้าการท่องเที่ยวกลับมา เงินไหลเข้าประเทศ จะเห็นค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าได้บ้าง
    • Krungsri Global Market คาดการณ์ว่า เงินบาทจะกลับมาแข็งค่าเป็น 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสที่ 4 ปี 2022 และ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2023 ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย คาดว่าจะปรับขึ้นเป็น 1.25% ในไตรมาส 2 ปี 2023 จากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.50%

 

  • มุมมองการลงทุน

 

    • ตลาดตราสารหนี้
      • เชื่อว่าธนาคารกลางเกือบทุกประเทศต้องเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากแรงกดดันเงินเฟ้อ
      • คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยจะส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในเดือน ส.ค. เนื่องจากแรงกดดันเงินเฟ้อ แต่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะไม่แรงเหมือนสหรัฐฯ

 

    • ตลาดหุ้น
      • Krungsri Securities คาดว่าภายในสิ้นปี 2022 ดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,630–1,670 จุด นักลงทุนยังต้องระมัดระวังการลงทุนในระยะสั้น แต่ในระยะกลางและระยะยาว ตลาดหุ้นยังเดินหน้าต่อไปได้

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats