นายกรัฐมนตรี vs ผลตอบแทนหุ้นไทย
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ปัจจุบันต้องยอมรับว่า นโยบายรัฐบาล รวมไปถึงเสถียรภาพรัฐบาล ความสอดคล้องนโยบาย หน้าตาคณะรัฐบาล การออกมาให้ความคิดเห็น ล้วนมีผลต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นมากพอสมควร โดยเฉพาะนโยบายรัฐบาล เช่น นโยบายทางเศรษฐกิจ การลงทุน ภาษี การนำเข้าและส่งออก รวมไปถึงมาตรการต่างๆ ที่ออกมาในช่วงเวลานั้น
ถ้านโยบายออกมาและสนับสนุนต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนหรือเอื้อต่อการลงทุน ย่อมทำให้บรรยากาศในตลาดหุ้นคึกคัก เพราะนักลงทุนมีความเชื่อมั่น ตรงกันข้ามหากนโยบายออกมาแล้วไม่เป็นที่น่าพอใจของนักลงทุนหรือมองว่าเป็นปัจจัยเชิงลบ ตลาดหุ้นอาจจะตอบสนองในทางลบตามไปด้วย
หากเอ่ยถึงหน้าตารัฐบาล นักลงทุนย่อมให้ความสำคัญกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นผู้นำในการตัดสินใจว่าจะออกนโยบายอะไรเพื่อทำให้เศรษฐกิจประเทศเติบโตต่อไป ดังนั้น มาสำรวจข้อมูลว่าระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมีความสัมพันธ์กับผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างไร โดยผลตอบแทนดังกล่าวจะเปรียบเทียบกับดัชนีผลตอบแทนรวม (Total Return Index: TRI)
จากข้อมูลพบว่าหากรัฐบาลอยู่ในวาระนาน ผลตอบแทนจากตลาดหุ้นไทยก็มีโอกาสปรับสูงขึ้นตามไปด้วย โดยนับตั้งแต่ยุค ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี จนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเพียง 9 นายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่บริหารงานเกิน 2 ปี
โดยยุคที่รัฐบาลอยู่นานเกิน 2 ปี ส่วนใหญ่แล้วผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับที่น่าประทับใจ เช่น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีทั้งสิ้น 3,076 วัน หากนักลงทุนซื้อหุ้นวันแรกที่ พล.อ.เปรม ดำรงตำแหน่งแล้วถือหุ้นไปเรื่อยๆ แล้วขายในวันสุดท้ายที่ท่านนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี จะได้รับผลตอบแทน 234%
หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2,040 วัน ให้ผลตอบแทน 122.3% และหากซื้อหุ้นช่วงที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทย 177.6% หรือช่วงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นไทย 42.8%
ขณะที่สมัยชวน หลีกภัย ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 สมัย ที่บริหารงานมากกว่า 2 ปี แต่ผลตอบแทนหุ้นไทยติดลบ ปัจจัยหลักๆ มาจากการถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ และไม่สามารถตอบคำถามได้ จึงต้องประกาศยุบสภา ขณะที่ดำรงตำแหน่งรอบที่ 2 เผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ขณะเดียวกันมีประเด็นการทุจริตภายในพรรคร่วมรัฐบาลอีกด้วย
สำหรับรัฐบาลปัจจุบัน ที่มีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และกำลังจะประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหญ่ ดำรงตำแหน่ง 2,754 วัน (24 สิงหาคม 2557–10 มีนาคม 2566) ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นไทยประมาณ 30.00%
ข้อมูลดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าอายุรัฐบาลมีผลต่อผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยพอสมควร เนื่องจากยิ่งรัฐบาลบริหารงานนาน ยิ่งทำให้มีนโยบายการบริหารประเทศต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจต่อการลงทุน พูดง่ายๆ นักลงทุนชอบการเมืองที่มีเสถียรภาพ