×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

เงินซื้อ iPhone 15 Pro Max เอาไปทำอะไรได้บ้าง?

840

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย

Facebook | Line Youtube | Instagram

 

iPhone 15 Pro Max ความจุ 1TB ที่ราคาเต็ม 66,900 บาท 

 

สามารถเปลี่ยนเอาเงินนั้นไปทำอะไรได้บ้าง ที่จะเพิ่มเงินในกระเป๋าให้มากขึ้นได้

 

บุฟเฟ่ต์สุดฟิน

 

Copper Buffet บุฟฟเฟ่ต์เลิศรสที่คิดอยากจะกินก็ไปกินทันทีไม่ได้ เพราะใน 1 เดือน เปิดจองคิวแค่ 2 รอบ โดยราคาต่อหัวที่ถูกที่สุดอยู่ที่ 1,359 บาท ซึ่งราคาเครื่อง iPhone 15 Pro Max เพียงพอให้สามารถพาคู่รักไปกิน Copper Buffet ได้เดือนละ 2 ครั้ง หรือทุกรอบการจองได้นานถึง 1 ปีเต็มเลย (เทียบเท่า Copper Buffet 49 หัว)

 

หรือหากเป็นบุฟฟเฟ่ต์ที่ราคาย่อมเยาลงมา อย่างสุกี้ตี๋น้อย ที่ราคาสุทธิหัวละ 276 บาท สามารถพาคู่รักไปกินได้ทุกสัปดาห์ได้นานถึง 30 เดือนหรือกว่า 2 ปีเลย (เทียบเท่าสุกี้ตี๋น้อย 242 หัว)

 

โปะหนี้ ลดดอกเบี้ย

 

หนี้บ้านซึ่งเป็นหนี้ก้อนโตและต้องจ่ายยาวนานเกือบตลอดช่วงชีวิตการทำงาน การโปะหนี้ด้วยเงินที่ไม่ใช่จำนวนเยอะแต่ก็ช่วยประหยัดดอกเบี้ยได้หลายเท่าตัวของเงินที่โปะไป เช่น หากมียอดหนี้ 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี ผ่อนเดือนละ 5,368 บาท การโปะด้วยเงินที่เท่ากับราคาเครื่อง iPhone 15 Pro Max จะทำให้ดอกเบี้ยที่จ่ายรวมตลอดสัญญาลดลงถึง 283,379 บาท หรือคิดเป็น 4.24 เท่าของเงินที่โปะไป และหมดหนี้เร็วขึ้นกว่า 2 ปี

 

เงินคืนภาษี

 

เงินที่นำไปลดหย่อนภาษีแต่ละครั้ง เช่น กองทุน SSF กองทุน RMF ประกันชีวิต ฯลฯ ช่วยให้ได้เงินภาษีคืน 5%-35% ของเงินที่ลดหย่อนไป เช่น หากลดหย่อนภาษีเท่ากับราคาเครื่อง iPhone 15 Pro Max คนที่

 

  • เงินเดือน 30,000 บาท จะได้ภาษีคืนประมาณ 2,500 บาท (ฐานภาษี 0%-5%)
  • เงินเดือน 50,000 บาท จะได้ภาษีคืนประมาณ 6,690 บาท (ฐานภาษี 10%)
  • เงินเดือน 75,000 บาท จะได้ภาษีคืนประมาณ 10,035 บาท (ฐานภาษี 15%)
  • เงินเดือน 100,000 บาท จะได้ภาษีคืนประมาณ 15,380 บาท (ฐานภาษี 20%-25%)

 

*คำนวณเงินคืนภาษีเบื้องต้นจาก ลดหย่อนส่วนส่วนตัว 60,000 บาท และค่าใช้จ่ายตามกฎหมาย 100,000 บาท

 

ลงทุน ให้เติบโต

 

ด้วยเงินที่เท่ากับราคาเครื่อง iPhone 15 Pro Max หากนำไปลงทุนในทางเลือกต่าง ๆ จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับเงินก้อนนี้ เช่น การนำไปลงทุนเป็นเวลา 10 ปี ในทางเลือกที่มี

 

  • ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.5% ต่อปี (เช่น เงินฝาก e-Savings) เงินจะโตขึ้นเป็น 77,640 บาท ผลตอบแทนรวม 10,740 บาท คิดเป็น 16% ของราคาเครื่อง
  • ผลตอบแทนเฉลี่ย 3% ต่อปี (เช่น พันธบัตรรัฐบาล กองทุนตราสารหนี้) เงินจะโตขึ้นเป็น 89,908 บาท ผลตอบแทนรวม 23,008 บาท คิดเป็น 34% ของราคาเครื่อง
  • ผลตอบแทนเฉลี่ย 5% ต่อปี (เช่น กองทุนผสม) เงินจะโตขึ้นเป็น 108,973 บาท ผลตอบแทนรวม 42,073 บาท คิดเป็น 63% ของราคาเครื่อง
  • ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี (เช่น กองทุนหุ้น) เงินจะโตขึ้นเป็น 173,521 บาท ผลตอบแทนรวม 106,621 บาท คิดเป็น 159% ของราคาเครื่อง

 

หรือหากนำเงินที่เท่ากันไปลงทุนกองทุน SSF ที่มีเงื่อนไขการลงทุน 10 ปี นอกจากผลตอบแทนดังกล่าวแล้ว ยังได้รับเงินคืนภาษีด้วยเช่นกัน

 

สมาร์ทโฟนออกใหม่ใคร ๆ ก็อยากได้ อยู่ที่ราคาเครื่องที่จ่ายไปคุ้มกับต้นทุนการเสียโอกาสอย่างที่ยกตัวอย่างมาหรือไม่ ที่สำคัญหากตัดสินใจจะซื้อใหม่แล้ว เงินที่จ่ายไปต้องมั่นใจว่าจะไม่กระทบกับวิถีชีวิตและค่าใช้จ่ายประจำวันของตนเองและครอบครัว

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats