ทำไม? ‘สวิตเซอร์แลนด์’ ประเทศเล็กแต่รวยมาก
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line
…ทำไม? สวิตเซอร์แลนด์ถึงกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
…อะไร? คือปัจจัยแห่งความร่ำรวยของสวิตเซอร์แลนด์
สวิตเซอร์แลนด์รวยแค่ไหน? เมื่อเทียบกับนานาประเทศ

ข้อมูลจากรายงาน Global Wealth Report 2024 ซึ่งจัดทำโดย UBS สะท้อนว่าชาวสวิสคือกลุ่มคนที่ร่ำรวยมากที่สุดในโลก ด้วยความมั่งคั่งเฉลี่ย 709,612 ดอลลาร์ต่อคน เมื่อแปลงเป็นเงินบาทจะเท่ากับว่าชาวสวิส 1 คน มีความมั่งคั่งเฉลี่ยประมาณ 25 ล้านบาท
แต่หากมองความร่ำรวยของประเทศผ่านเลนส์ GDP per capita หรือ GDP เฉลี่ยต่อราย สวิตเซอร์แลนด์จะเป็นประเทศที่ร่ำรวยมากที่สุดอันดับ 3 ของโลก ด้วย GDP per capita จำนวน 105,670 ดอลลาร์หรือราวๆ 3.5 ล้านบาท ในขณะที่ประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกคือ ลักเซมเบิร์ก ซึ่งมี GDP per capita จำนวน 131,380 ดอลลาร์หรือราวๆ 4.4 ล้านบาท ส่วนอันดับ 2 คือ ไอร์แลนด์ จำนวน 106,060 ดอลลาร์หรือราวๆ 3.5 ล้านบาท
และในแง่ของ GDP โดยตรง ปัจจุบันสวิตเซอร์แลนด์มี GDP ราว 8.8 แสนล้านดอลลาร์หรือราวๆ 30 ล้านล้านบาท มากที่สุดเป็นอันดับ 20 ของโลก ขณะที่ประเทศไทยมี GDP 5.1 แสนล้านดอลลาร์หรือราวๆ 17 ล้านล้านบาท อยู่ในอันดับที่ 27 ของโลก
นอกจากนี้ หากมองในแง่จำนวนของมหาเศรษฐีที่มีความมั่งคั่งมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์หรือราวๆ 34 ล้านบาท ก็มีมากถึง 8 แสนคน จากประชากรทั้งประเทศที่มีอยู่เกือบ 9 ล้านคน
แน่นอนว่าเมื่อมีคนรวยอาศัยอยู่มาก ค่าครองชีพของการใช้ชีวิตในสวิตเซอร์แลนด์ก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน และจากการสำรวจของ CEOWORLD magazine เมื่อปี 2020 พบว่าสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก
เส้นทางความมั่งคั่งของสวิตเซอร์แลนด์
แน่นอนว่าเส้นทางความรวยของสวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้เกิดขึ้นจากปัจจัยหนึ่งปัจจัยเดียว แต่มีที่มาจากหลากหลายสาเหตุ
เมื่อพูดถึงสวิตเซอร์แลนด์หลายคนมักจะจินตนาการถึงช็อกโกแลตหรือนาฬิกา แต่ในความเป็นจริงแล้วสวิตเซอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่ล้ำหน้าในเรื่องของนวัตกรรมเป็นอย่างมาก
ในอดีตสวิตเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงอย่างมากในฐานะผู้ส่งออกสินค้าที่หลากหลาย ทั้งในส่วนของ ยา อัญมณี สารเคมี และเครื่องจักร
เส้นทางความมั่งคั่งของแดนนาฬิกาแห่งนี้ มีหนึ่งในงานวิจัยชื่อ Switzerland’s Rise to a Wealthy Nation ของมหาวิทยาลัย United Nations University สรุปไว้ว่า รากฐานของการพัฒนาที่ประสบความสำเร็จของสวิตเซอร์แลนด์ ต้องย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 19 กับการก่อตั้งสมาพันธรัฐสวิสในปี 1848 และมีรัฐธรรมนูญของประเทศ
รวมทั้งการดึงดูดผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญ เพื่อส่งเสริมการขยายตัวของบริษัทต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในหลายอุตสาหกรรม
ความพยายามในการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมของสวิสเป็นสากล (Internationalization) ตั้งแต่เนิ่นๆ ช่วยให้ GDP ของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในศตวรรษที่ 19 เมื่อเทียบกับประเทศในยุโรปอื่นๆ
การที่สวิตเซอร์แลนด์มุ่งเน้นที่อุตสาหกรรมของตนเอง การให้คุณค่าต่อการค้าเสรีทำให้สวิตเซอร์แลนด์เน้นการผลิตสินค้าในประเทศ แทนการซื้อสินค้าราคาถูกจากประเทศอื่นๆ แม้จะทำให้สินค้าของสวิตเซอร์แลนด์มีราคาแพงกว่าประเทศอื่นในยุโรปอย่างมาก แต่ปรัชญานี้ได้กลายมาเป็นพื้นฐานของความสำเร็จทางเศรษฐกิจ
ขณะที่ความมั่นคงและเสถียรภาพทางการเมืองก็เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จระยะยาว
ประการแรก คือความเป็นกลางของประเทศในสงครามและความขัดแย้ง หมายความว่าสวิตเซอร์แลนด์ไม่ประสบกับความเสียหายทางเศรษฐกิจรุนแรงเท่ากับที่หลายประเทศเพื่อนบ้านในยุโรปต้องเผชิญ
ประการที่สอง คือระบบประชาธิปไตยที่มั่นคงและวัฒนธรรมการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ประเทศสามารถรับมือกับปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจได้ ความมั่นคงนี้ทำให้นักลงทุนและชาวต่างชาติที่มั่งคั่งมองเห็นสวิตเซอร์แลนด์เป็นสถานที่ปลอดภัยในการเก็บรักษาและใช้จ่ายเงิน
‘การศึกษา’ กุญแจสู่ความร่ำรวย

ความรู้และการศึกษาเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่สวิตเซอร์แลนด์ใช้ในการปลดล็อกไปสู่ความร่ำรวย และการให้ความสำคัญต่อการศึกษาก็สะท้อนออกมาผ่านดัชนีที่เรียกว่า Global Index Knowledge (GKI) ซึ่งในปี 2023 สวิตเซอร์แลนด์อยู่ในอันดับที่ 1 ด้วยคะแนน 69.1
ดัชนีดังกล่าววัดจากหลายๆ ด้าน และด้านที่โดดเด่นอย่างมากของสวิตเซอร์แลนด์คือ คุณภาพการศึกษาช่วงก่อนมหาวิทยาลัย และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
สวิตเซอร์แลนด์เป็นชนชาติที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยมีงบประมาณสำหรับการศึกษาคิดเป็น 5.7% ของ GDP หรือราว 1.5 ล้านล้านบาทต่อปี
รวมทั้งการสนับสนุนในเรื่อง R&D อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีสถาบันนวัตกรรมแห่งชาติที่ชื่อว่า Innosuisse หรือ Swiss Innovation Agency ที่มีนโยบายให้เงินทุนสนับสนุนโดยตรงกับมหาวิทยาลัย รวมทั้งผลักดันให้บริษัทต่างๆ เป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ ของประเทศ
ทำไมมหาเศรษฐีโลก ชอบเอาเงินฝากไว้สวิตเซอร์แลนด์?
สวิตเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงอย่างมากในฐานะประเทศที่เป็น Tax Haven การฝากเงินไว้กับบัญชีธนาคารสวิส เป็นที่ชื่นชอบของมหาเศรษฐีทั่วโลก ด้วยระดับความเสี่ยงทางการเงินที่ต่ำและความเป็นส่วนตัวที่สูง
กฎหมายสวิสห้ามธนาคารเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับบัญชี รวมถึงการมีอยู่ของบัญชี โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ฝาก เว้นแต่จะมีข้อสงสัยที่ชัดเจนอย่างมากเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายที่ร้ายแรง
ความมั่นคงทางการเงินที่ธนาคารสวิสมอบให้ยังดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ซึ่งช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและทำให้สวิตเซอร์แลนด์กลายเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับการค้าสินค้าโภคภัณฑ์และการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
เรื่องราวความสำเร็จของสวิตเซอร์แลนด์เป็นสิ่งที่ประเทศอื่นๆ สามารถนำไปเป็นต้นแบบในบางส่วน ได้แก่
- ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมของสวิตเซอร์แลนด์มีความเป็นสากล
- การเมืองมีเสถียรภาพ มั่นคง
- ให้ความสำคัญกับการศึกษา จนติดอันดับประเทศที่มีการศึกษาดีระดับต้นๆ ของโลก
- สนับสนุนงบในการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพียงวันเดียว เพราะสวิตเซอร์แลนด์ได้สั่งสมความพยายามที่จะผลักดันประเทศให้โตแบบก้าวกระโดดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 แล้ว จึงทำให้ในวันนี้สวิตเซอร์แลนด์ประสบความสำเร็จกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
อุตสาหกรรมธนาคารเหล่านี้ยังช่วยสร้างผลบวกต่อไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ ช่วยให้เกิดการจ้างงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก