6 ขั้นตอนปลดหนี้
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
วันก่อนได้มีโอกาสเจอกระทู้ใน Pantip * ที่เจ้าของกระทู้มีความจำเป็นต้องเป็นหนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด (อย่างละครึ่ง) รวม 6 ใบ ยอดหนี้ 600,000 บาท ทั้งที่เงินเดือนเพียง 27,000 บาทเท่านั้น แถมยังมีภาระต้องเลี้ยงดูคุณแม่อีกด้วย
แม้มีหนี้สูงกว่า 22 เท่าของเงินเดือน แต่ก็ยังพอมีวิธีจัดการกับหนี้ก้อนนี้ได้ โดยเริ่มต้นจาก
เช็กภาระจ่าย
บัตรเครดิตมักต้องจ่ายขั้นต่ำ 10% และบัตรกดเงินสด 5%ของหนี้คงค้าง ดังนั้นยอดหนี้ 6 แสนบาท หากเป็นบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดอย่างละครึ่งนั้น ต้องจ่ายขั้นต่ำถึงเดือนละ 45,000 บาท ซึ่งสูงกว่าเงินเดือนตัวเอง จึงไม่แปลกที่ต้องกดเงินจากบัตร A ไปจ่ายบัตร B เช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนวงเงินเต็มทุกบัตรในที่สุด
ลดยอดผ่อน ยืดเวลา
ด้วยการมองหาสินเชื่อส่วนบุคคล โดยเฉพาะแบบที่มีโปรแกรมรีไฟแนนซ์หนี้บัตรฯ เพราะดอกเบี้ยมักต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลอื่น โดยมักผ่อนได้นานสุด 60 เดือน หากลองคำนวณด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 28%ต่อปี ที่วงเงินกู้ 600,000 บาท จะผ่อนรวมเดือนละ 18,700 บาท ซึ่งน้อยกว่าการจ่ายขั้นต่ำแบบเดิมถึง 26,300 บาท และหลังจ่ายหนี้แล้ว ยังมีเงินเดือนเหลือไว้ใช้จ่ายเดือนละ 8,300 บาทด้วย
เช็กเงื่อนไข
สินเชื่อส่วนบุคคลบางแห่งอาจมีเงื่อนไขห้ามปิดหนี้ก่อนสัญญา หรือห้ามจ่ายหนี้แต่ละเดือนเกิน 2 เท่าของยอดผ่อน หากเจอเงื่อนไขลักษณะนี้ แม้ได้อัตราดอกเบี้ยต่ำหรือวงเงินสูงเพียงใดก็อย่าเพิ่งรีบร้อนเซ็นสัญญา ควรลองมองหาสินเชื่อจากธนาคารอื่นๆ ดูก่อน หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ จึงค่อยตัดสินใจ
ยื่นเผื่อไว้ อย่าขอแค่พอดี
แต่ละธนาคารมีเงื่อนไขและให้วงเงินสูงสุดต่อสัญญาที่ต่างกัน ดังนั้นการยื่นขอสินเชื่อแต่ละที่ แม้ยื่นเอกสารเหมือนกันในวันเดียวกัน ก็อาจได้รับการอนุมัติหรือปฏิเสธที่ต่างกัน
เช็กทรัพย์สินที่มี
หากมีบ้านหรือรถยนต์ ไม่ว่ายังติดภาระหรือปลอดภาระก็ตาม สามารถนำมาเป็นหลักทรัพย์ในการขอสินเชื่อกับธนาคารได้ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล 2-4 เท่า จึงควรนำมาเป็นทางเลือกแรกๆ หากมีทรัพย์สินเป็นชื่อของตนเองหรือญาติสนิท
มีเงินเหลือต้องรีบโปะ
เมื่อภาระจ่ายหนี้ลดลงจนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว อย่าละเลยที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ไว้ และเน้นใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น รวมไปถึงการมองหาอาชีพเสริมที่เน้นลงแรงไม่ลงเงิน เพื่อเป็นการหารายได้มาเร่งโปะหนี้ให้หมดเร็วยิ่งขึ้น
อีกทั้งต้องหมั่นขยันทำงานประจำที่ทำอยู่ให้ดี เพราะเมื่อทำงานดี เงินเดือนขึ้นและโบนัสที่ดีก็จะตามมา ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้มีเงินนำไปโปะหนี้ได้ด้วย
การขอสินเชื่อเป็นทางเลือกหนึ่งที่อาจช่วยข้ามวิกฤติไปได้ แต่หากไม่เป็นไปอย่างที่หวัง การมุ่งมั่นทำงานปัจจุบันให้ดี และเปิดใจปรึกษากับใครสักคน ถือเป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยให้พ้นวิกฤตินี้ไปได้เช่นกัน
* https://pantip.com/topic/38974883
