×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

7 สัญญาณไม่พร้อมซื้อ “บ้าน”

11,630

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

เชื่อว่าแทบทุกคนคงฝันว่า วันหนึ่งจะได้เป็นเจ้าของบ้านสักหลัง หรือคอนโดมิเนียมสักห้อง แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ต้องสำรวจตัวเองว่าพร้อมหรือยัง ดูได้ง่ายๆ จาก 7 สัญญาณต่อไปนี้ ซึ่งหากพบว่าตรงกับตัวเองก็แสดงว่า ยังไม่ถึงเวลามีบ้านเป็นของตัวเอง

 

รายได้ไม่เพียงพอ

หลายคนคิดว่าตัวเองมีรายได้พอจะซื้อบ้านแล้ว แต่เมื่อแจกแจงเงินรายได้ดูดีๆ ก็จะเจอว่ายังมีรายได้น้อยเกินไป เพราะถ้าจะซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมจริงๆ อย่างน้อยก็ต้องมีเงินก้อนหนึ่งสำหรับเงินดาวน์ และค่าธรรมเนียมจิปาถะอื่นๆ นอกจากนี้ ต้องมีเงินพอสำหรับผ่อนชำระค่างวดเงินกู้ในแต่ละเดือน ค่าประกันภัย อีกด้วย

 

หนี้มากเกินไป

ธนาคารจะประเมินความสามารถแบกรับภาระหนี้ของลูกหนี้เงินกู้สูงสุด 40% ของรายได้ต่อเดือน เช่น มีเงินเดือน 30,000 บาท สามารถผ่อนบ้านได้สูงสุดเดือนละ 30,000 x 40% = 12,000 บาท และธนาคารมักให้วงเงินกู้ประมาณ 15-30 เท่าของรายได้

 

แต่ถ้ามีภาระต้องผ่อนอย่างอื่นอยู่แล้ว เช่น ผ่อนรถเดือนละ 5,000 บาท ก็จะทำให้มีความสามารถผ่อนบ้านลดลงเหลือ 12,000 – 5,000 = 7,000 บาทต่อเดือน หรือบางคนอาจใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระอีกหลายอย่าง ความสามารถในการผ่อนบ้านก็ยิ่งน้อยลงอีก ที่สำคัญหากใครมีหนี้บัตรเครดิตอยู่เยอะ และอยากกู้เงินซื้อบ้านเพิ่มอีก ก็ต้องรีบเคลียร์หนี้ก้อนนั้นให้หมด หรือเหลือน้อยที่สุด เพื่อแสดงให้ธนาคารเห็นว่า ยังมีความสามารถในการก่อหนี้และชำระหนี้เงินกู้ซื้อที่อยู่อาศัย

 

เงินออมน้อยเกินไป

หากใครมีเงินออมไม่พอที่จะดาวน์บ้านหรือคอนโดมิเนียมก็ควรจะชะลอแผนไปก่อน เพราะธนาคารส่วนใหญ่ไม่ปล่อยกู้เต็มจำนวนของราคาซื้อขาย ดังนั้นผู้ซื้อต้องมีเงินออม เพื่อใช้เป็นเงินดาวน์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าซ่อมแซมบ้านฉุกเฉิน และค่าธรรมเนียมต่างๆ นอกจากนี้ ธนาคารยังใช้ข้อมูลเงินออมเพื่อพิจารณาเครดิตของคนขอสินเชื่อด้วย

 

ทำงานที่ปัจจุบันไม่นาน

โดยทั่วไป ธนาคารจะพิจารณาว่า ผู้ยื่นกู้ทำงานประจำที่เดิมมานานแค่ไหน ส่วนใหญ่ควรจะเกิน 6 เดือน จึงกู้เงินซื้อบ้านได้สะดวก แต่หากเคยทำงานที่เดิมมายาวนาน และเพิ่งเปลี่ยนงานก็สามารถแจ้งเหตุผลการเปลี่ยนงานแก่ธนาคาร เพื่อประกอบการพิจารณาได้

 

ประวัติเครดิตไม่ดี

คนที่มีประวัติเครดิตไม่ดี เช่น ผิดนัดชำระหนี้ เคยเป็นบุคคลล้มละลาย หรือมีหนี้ค้างชำระมากเกินไป มีแนวโน้มได้รับเงินกู้ยาก หากมีประวัติเครดิตไม่ดี ควรปรึกษาธนาคารว่าควรปรับปรุงตัวอย่างไร เพื่อให้สามารถกู้เงินได้ ดังนั้นอาจต้องชะลอแผนซื้อบ้านไปก่อน

 

ไม่แน่ใจว่าอยากได้บ้านแบบไหน

การซื้อบ้านต้องใช้เงินมหาศาล อาจเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตของคนๆหนึ่งก็ได้ หากยังไม่รู้ว่าอยากได้บ้านแบบไหน ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด คอนโดมิเนียม ก็ควรใช้เวลาศึกษาหาข้อมูลก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะหากตัดสินใจซื้อแล้ว การจะขายต่อก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก หากไม่ได้อยู่ในทำเลทอง และราคาขายชวนซื้อจริงๆ

 

ยังไม่ลงหลักปักฐาน

ถ้ายังไม่ตกลงปลงใจว่าจะอยู่ในย่านที่สนใจซื้อบ้านอย่างน้อย 3-5 ปี ก็ไม่ควรรีบซื้อ ยิ่งถ้ายังไม่แน่ใจเรื่องหน้าที่การงาน หรือกำลังคิดว่าจะย้ายทำเลที่อยู่ไปใกล้ครอบครัวมากขึ้น ก็ควรรอความชัดเจนก่อนตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่ด้วยการซื้อบ้าน

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats